คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1311/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำร้องของโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นระบุว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ศาลชั้นต้นรับคำร้องและอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมได้แล้วแม้คำฟ้องโจทก์จะระบุว่าทรัพย์ตามที่ระบุในคำฟ้องเป็นของณ. แต่ก็ได้ความว่าเป็นทรัพย์ของโจทก์ร่วมซึ่งมีณ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนเมื่อจำเลยนำสืบปฏิเสธว่าผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ร่วมคืออ. และโจทก์ร่วมนำทรัพย์มาฝากไว้จึงไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ไม่เป็นเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ร่วมด้วยเหตุว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334, 335, 336 ทวิ, 357, 83 คืนของกลางแก่เจ้าของและให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาเสื้อ กางเกง ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 31,150 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา บริษัทจี.เอ็ม.พี.การ์เม้นท์ จำกัด โดยนายณริศ นรเสฎฐ์ ผู้เสียหายหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม
โจทก์ร่วมฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คำร้องของโจทก์ร่วมที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นระบุว่า โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ศาลชั้นต้นได้รับคำร้องและอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมได้แล้ว แม้คำฟ้องโจทก์ระบุว่าทรัพย์ตามที่ระบุในคำฟ้องเป็นของนายณริศ นรเสฏฐ์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นทรัพย์ของโจทก์ร่วมซึ่งมีนายณริศเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน เมื่อจำเลยนำสืบปฏิเสธว่านางอิศราภรณ์ นรเสฎฐ์ กรรมการอีกคนหนึ่งของโจทก์ร่วมซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ร่วมนำมาฝากไว้จึงไม่ถือว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้ ดังนี้ไม่เป็นเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ร่วมด้วยเหตุว่าโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหาย ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share