คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จะเป้นความผิดฐานยักยอกนั้นกฎหมายต้องการความไว้+ใจในตัวผู้รับมอบหมายทรัพย์เป็หลัก หาได้เพ่งเล็งถึงประโยชน์ของผู้มอบหรือผู้รับมอบไม่

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาฟังว่า จำเลยได้ยืมเข็มขัดนากของนางลิ้นจี่ว่าจะเอาไปทำตัวอย่างเมื่อนางลิ้นจี่ไปถามถึงเข็มขัดรายนี้ จำเลยว่าเอาไปทำยังไม่เสร็จ ภายหลังไปถามอีกสองครั้งจำเลยก็ว่ายังทำไม่เสร็จ การที่จำเลยเบียดบังยักยอกเอาเข็มขัดไปขายเอาเงินเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียนั้น จำเลยต้องมีความผิดพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๓๑๔ ให้จำคุก ๓ เดือนและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเข็มขัดนากแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์ของจำเลยในข้อเท็จจริงฟังไม่ขึ้น ส่วนในข้อกฏหมายที่ว่าต้องเป็นการมอบหมายเพื่อประโยชน์ของผู้มอบหมาย เห็นว่ากฎหมายไม่ได้ว่าดังนั้น การรับมอบหมายในกรณีนี้เป็นการรับมอบหมายทรัพย์ไว้เพื่อให้ใช้โดยเฉพาะในการทำตัวอย่าง ต้องตามมาตรา ๓๑๔ ตรงที่ว่า”ได้รับมอบหมายทรัพย์ไว้เพื่อให้มันใช้โดยเฉพาะในการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งชอบด้วยกฎหมาย” จึงให้ยกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าหลักความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามมาตรา ๓๑๔ นั้นมิได้มุ่งบัญญัติว่า จะต้องเป็นการมอบหมายเพื่อประโยชน์ของผู้มอบหมายฝ่ายเดียวเท่านั้น ถ้อยคำในตัวบทมิได้กล่าวดังนั้น ส่วนความประสงค์ของกฎหมายก็จะเห็นได้ว่ากฎหมายต้องการความไว้วางใจในตัวผู้รับมอบหมายเป็นหลัก หาใช่เพ่งเล็งว่าเพื่อประโยชน์ของผู้มอบหรือผู้รับมอบไม่เพราะการมอบหมายอาจเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อกฎหมายไว้ถูกต้องแล้ว จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share