คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5663/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำร้องของผู้ร้องอ้างว่าป.เป็นผู้ซื้อรถยนต์กึ่งพ่วงได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วป. ขายต่อให้แก่ผู้ร้องผู้ร้องได้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนขนส่งจังหวัดเพื่อจดทะเบียนการโอนย้ายและเปลี่ยนทะเบียนใหม่แต่นายทะเบียนขนส่งจังหวัดไม่สามารถจดทะเบียนการโอนได้เพราะรถพ่วงเลขทะเบียนซ้ำกับรถทะเบียนรถคันอื่นขอให้มีคำสั่งให้นายทะเบียนขนส่งจังหวัดจดทะเบียนรถพ่วงให้แก่ผู้ร้องตามคำร้องขอผู้ร้องมิใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องได้รับความเสียหายโดยการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา146ในอันที่จะยื่นคำร้องเข้ามาในคดีในชั้นรวบรวมและจำหน่ายทรัพย์สินได้หากผู้ร้องได้รับความเสียหายอย่างไรก็ชอบที่จะไปว่ากล่าวกับผู้เกี่ยวข้องต่างหากจากคดีในชั้นนี้ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด และพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย ในการรวบรวมและจำหน่ายทรัพย์สินเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ประจำศาลจังหวัดสมุทรปราการยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลย คือรถกึ่งพ่วงรวม 4 คันหมายเลขทะเบียน 80-3340 ฉะเชิงเทรา 80-2396 พระนครศรีอยุธยา80-7413 สระบุรี และ 80-0497 กรุงเทพมหานคร โดยนายปรีชาลักขณะภรณ์ เป็นผู้ซื้อได้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2531
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้ซื้อรถกึ่งพ่วงคันหมายเลขทะเบียน 80-3340 ฉะเชิงเทรา 80-2396 พระนครศรีอยุธยา80-7413 สระบุรี และ 80-0497 กรุงเทพมหานคร จากนายปรีชาลักษณาภรณ์ ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้จากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ประจำศาลจังหวัดสมุทรปราการผู้ร้องได้นำรถทั้งสี่คันขอโอนย้ายไปจดทะเบียนที่สำนักงานขนส่งจังหวัดลพบุรี ปรากฎว่านายทะเบียนขนส่งจังหวัดลพบุรีรับจดทะเบียนโอนให้เพียงคันเดียวคือค้นหมายเลขทะเบียน 80-7413 สระบุรีซึ่งเปลี่ยนเป็นหมายเลขทะเบียน 80-7675 ลพบุรี ส่วนรถคันอื่นนอกนั้นไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้เพราะเลขทะเบียนไปซ้ำมีเจ้าของอยู่แล้ว และนายทะเบียนขนส่งจังหวัดลพบุรีจะรับจดทะเบียนให้แก่ผู้ร้องได้ต่อเมื่อศาลมีคำสั่ง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนขนส่งจังหวัดลพบุรีรับจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถกึ่งพ่วงที่เหลืออีก 3 คัน โดยระบุชนิดว่า ทีเอส – 01328 – 83 หมายเลขคัสซี 1066,1067, 1068 ให้แก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ยก คำร้อง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความเป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยล้มละลายในการรวบรวมและจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยเฉพาะที่เกี่ยวกับคดีนี้คือ รถกึ่งพ่วงรวม 3 คัน คันแรกหมายเลขทะเบียน80-3340 ฉะเชิงเทรา คันที่ 2 หมายเลขทะเบียน 80-2396พระนครศรีอยุธยา และคันที่ 3 หมายเลขทะเบียน 80-0497 กรุงเทพมหานครซึ่งได้มีการขายทอดตลาดตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปรากฎว่านายปรีชา ลักขณะภรณ์ เป็นผู้ซื้อได้ แล้วนายปรีชาขายรถพ่วงทั้งสามคันให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนขนส่งจังหวัดลพบุรี เพื่อจดทะเบียนการโอนย้ายและเปลี่ยนทะเบียนใหม่แต่นายทะเบียนขนส่งจังหวัดลพบุรีไม่สามารถจดทะเบียนการโอนได้เพราะรถพ่วงเลขทะเบียนซ้ำกับทะเบียนรถคันอื่น ปัญหาตามที่ผู้ร้องฎีกามีว่า ผู้ร้องมีสิทธิร้องขอให้มีคำสั่งให้นายทะเบียนขนส่งจังหวัดลพบุรีจดทะเบียนรถพ่วงพิพาททั้ง 3 คันได้หรือไม่เห็นว่ากรณีตามคำร้องของผู้ร้องมิใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องได้รับความเสียหายโดยการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในอันที่จะยื่นคำร้องเข้ามาในคดีในชั้นนี้ได้หากผู้ร้องได้รับความเสียหายอย่างไรก็ชอบที่จะไปว่ากล่าวกับผู้เกี่ยวข้องต่างหากจากคดีในชั้นนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำร้องตามกันมานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

Share