คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5389/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ภริยาต่อว่าญาติและเพื่อนของสามีต่อหน้าสามีว่าทำไมไม่ออกเงินค่าสุราอาหารเองบ้างและการที่ภริยากล่าวว่าตนโตมาได้เพราะพ่อแม่ชุบเลี้ยงไม่ใช่เพราะแม่ของสามียังไม่ถึงขนาดทำให้สามีได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงหรือเป็นการเหยียดหยามบุพการีของสามีอย่างร้ายแรงไม่เป็นเหตุหย่าตามกฎหมาย การที่ภริยาออกจากบ้านที่อยู่กินกับสามีเพราะสามีนำหญิงอื่นมาพักอาศัยในบ้านแล้วขับไล่ภริยาออกจากบ้านถือไม่ได้ว่าภริยาจงใจละทิ้งร้างสามี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน 1 คน ระหว่างอยู่กินด้วยกันจำเลยมักจะหาเรื่องทะเลาะกับโจทก์ จำเลยไม่เคยสนใจงานบ้านงานเรือน ด่าว่าโจทก์ต่อหน้าเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้อง ทำให้โจทก์ได้รับความอับอาย และจำเลยยังก้าวร้าวด่าว่าบุพการีของโจทก์ด้วยต่อมาจำเลยหนีออกจากบ้านที่อยู่กินร่วมกันโดยไม่ติดต่อกันอีกจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีแล้ว ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนหย่าให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และให้บุตรอยู่ในความปกครองของโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยด่าว่าโจทก์และบุพการีของโจทก์เหตุที่จำเลยต้องพาบุตรออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ที่อื่นเพราะโจทก์เลี้ยงดูยกย่องหญิงอื่นเป็นภริยา ทุบตีทำร้ายร่างกายและขับไล่จำเลยกับบุตรออกจากบ้านเพื่อนำภริยาใหม่เข้ามาอยู่แทนหลังจากนั้นโจทก์ไม่ยินยอมให้จำเลยและบุตรกลับเข้าไปพักอาศัยที่บ้านตามเดิมขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า จำเลยต่อว่าญาติและเพื่อนของโจทก์ต่อหน้าโจทก์ว่า ทำไมไม่ออกเงินค่าสุราอาหารเองบ้าง และจำเลยกล่าวว่า จำเลยโตมาได้เพราะพ่อแม่ชุบเลี้ยงไม่ใช่เพราะแม่ของโจทก์จริงหรือไม่ เห็นว่าการกระทำตามที่โจทก์ฎีกายังไม่ถึงขนาด ทำให้โจทก์ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงหรือเป็นการเหยียดหยามบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง การกระทำดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุหย่าตามกฎหมายดังนี้จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการดังกล่าวจริงหรือไม่
คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ประการสุดท้ายว่า จำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปเกิน 1 ปี หรือไม่ เชื่อว่าจำเลยออกจากบ้านที่อยู่กินกับโจทก์เพราะโจทก์นำนางสมจิตมาพักอาศัยแล้วขับไล่จำเลยออกจากบ้าน การที่จำเลยออกจากบ้านจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการจงใจละทิ้งร้างโจทก์
พิพากษายืน

Share