คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การให้ทรัพย์แก่สมาคมที่ตั้งขึ้นโดยมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายนั้นไม่สมบูรณ์ เพราะมีแต่ผู้ให้ ไม่มีบุคคลผู้รับ เนื่องจากสมาคมนั้นไม่ใช่นิติบุคคล ผู้ให้จึงฟ้องเรียกคืนเงินที่ให้ได้
โจทก์ฟ้องว่าได้มอบเงินให้จำเลยในฐานะนายกสมาคมเพื่อนำไปฝากคลัง ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เงินนั้น แต่ได้ความตามข้อเท็จจริงที่รับกันว่าโจทก์ได้ให้เงินจำนวนนั้นแก่สมาคมและรับกันต่อไปว่า สมาคมนั้นมิได้จดทะเบียนตามกฎหมายดังนี้ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการให้ทรัพย์แก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียนจะเป็นการสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ ฉะนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า การให้ไม่สมบูรณ์ และพิพากษาให้โจทก์เป็นเจ้าของเงินรายพิพาท จึงเป็นคำชี้ขาดในประเด็นและชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสมาชิกสมาคมกู้อิสระภาพอินเดีย จำเลยเป็นนายกสาขาสมาคมนี้ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โจทก์ได้มอบธนบัตรฉบับละพันบาทรวม 15,000 บาท ให้จำเลยในฐานะนายกสมาคมนำไปฝากไว้ที่คลังจังหวัดนครศรีธรรมราช บัดนี้สมาคมเลิกล้ม โจทก์ขอให้จำเลยจัดการให้มีชื่อโจทก์เป็นผู้ฝากธนบัตรที่กล่าวนี้ จำเลยไม่ยอมโจทก์จึงฟ้องขอให้แสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของธนบัตรเหล่านั้น

จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์อุทิศเงิน 15,000 บาท ให้แก่สมาคมกู้อิสรภาพอินเดียแล้ว เรียกคืนไม่ได้

คู่ความรับข้อเท็จจริงกันว่า โจทก์ได้ให้ธนบัตรรายพิพาทให้แก่สมาคมกู้อิสระภาพอินเดียจริง แต่สมาคมนี้ตั้งขึ้นโดยไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย แล้วต่างไม่สืบพยานต่อไป

ศาลชั้นต้นเห็นว่า สมาคมอินเดียมิใช่นิติบุคคลเพราะมิได้จดทะเบียน การให้ไม่สมบูรณ์ เพราะมีแต่ผู้ให้ไม่มีบุคคลผู้รับจึงพิพากษาให้ธนบัตรรายพิพาทเป็นของโจทก์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่ามอบธนบัตรรายพิพาทให้จำเลยในฐานะนายกสมาคม เพื่อนำฝากคลังแต่ข้อเท็จจริงที่รับกันว่าโจทก์ให้ธนบัตรรายพิพาทให้สมาคมกู้อิสรภาพอินเดีย ไม่ใช่การมอบหรือฝาก ฟ้องจึงต่างกับข้อเท็จจริง จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่โจทก์รับตามรายงาน การพิจารณาของศาลว่าธนบัตรรายนี้โจทก์ได้ให้แก่สมาคมกู้อิสรภาพอินเดียนั้น ถ้าคู่ความรับกันเพียงเท่านี้ คดีก็อาจฟังยุติให้ศาลวินิจฉัยได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้องหรือไม่ แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงหายุติเพียงนั้นไม่ โดยยังมีข้อที่โจทก์จำเลยรับกันต่อไปว่า สมาคมที่กล่าวนี้มิได้จดทะเบียนตามกฎหมายประเด็นจึงอยู่ที่ว่าการให้ทรัพย์แก่สมาคมที่มิได้จดทะเบียนนั้น จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องกับข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้น จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share