แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การประเด็นข้อพิพาทคงเกิดจากข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องโจทก์ที่ว่าโจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาทหรือไม่และจำเลยบุกรุกที่ดินพิพาทหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าที่ดินพิพาทเป็นป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่และโจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน1ปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองหรือไม่ฎีกาของจำเลยในประเด็นดังกล่าวเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินมือเปล่าเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2536 จำเลยจ้างวานให้บุคคลอื่นบุกรุกเข้าไปตัดฟันต้นไม้และทำลายรั้วของโจทก์ แล้วกั้นแนวรั้วขึ้นใหม่ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องจำเลยปฏิเสธ ขอให้พิพากษาว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าไปยุ่งเกี่ยวในที่ดินพิพาท
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507มาตรา 14 บัญญัติห้ามไม่ให้บุคคลใดยึดถือหรือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โจทก์เข้าครอบครองก็หามีกรรมสิทธิครอบครองไม่ เมื่อโจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินพิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยและจำเลยเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตามสิทธิของจำเลย โจทก์อ้างว่าครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่ปี 2512 แต่ไม่ได้ฟ้องจำเลยภายในอายุความ 1 ปี จึงขาดอายุความซึ่งหมายความถึงกำหนดเวลาการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรคสอง นั้น เห็นว่า คดีนี้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ประเด็นข้อพิพาทคงเกิดจากข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องโจทก์ที่ว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาทหรือไม่ และจำเลยบุกรุกที่ดินพิพาทหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่า ที่ดินพิพาทเป็นป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่และโจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองหรือไม่ ฎีกาของจำเลยจึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่จำเลยค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ