คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อช่องว่างระหว่างเกาะกลางถนนมีรูปเป็นส่วนโค้งและส่วนเว้าที่แสดงว่าเป็นช่องกลับรถของรถที่สวนทางมาแต่ไม่ใช่ช่องกลับรถของรถจำเลยที่สวนทางไปและยังมีป้ายเครื่องหมายจราจรห้ามกลับรถปักไว้ตรงหัวเกาะการที่ ว. ขับรถบรรทุกของจำเลยเคลื่อนออกจากไหล่ทางแล้วเลี้ยวขวาตัดหน้ารถทางตรงที่แล่นตามมาเพื่อจะกลับรถข้ามไปยังอีกถนนหนึ่งนั้นโดยปกติวิสัยจะต้องใช้ความระมัดระวังดูแลให้รถที่แล่นตามมาได้ผ่านพ้นไปให้ปลอดภัยเสียก่อน ว.ขับรถบรรทุกเลี้ยวขวาตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของโจทก์ในระยะกระชั้นชิดโดยไม่ระมัดระวังดูแลดังกล่าวเป็นเหตุให้รถเฉี่ยวชนกันจึงเป็นความประมาทเลินเล่อของ ว. แต่ฝ่ายเดียว การที่ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลหายไปหาอยู่2-3วันก็ไม่พบกรณีจึงถือได้ว่าต้นฉบับเอกสารสูญหายเมื่อศาลยอมรับฟังสำเนาเอกสารดังกล่าวก็เท่ากับศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบแทนต้นฉบับศาลจึงมีอำนาจรับฟังสำเนาเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา93(2)และมีอำนาจกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่ารักษาพยาบาลแก่โจทก์ตามเอกสารดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนแก่ โจทก์ คือ ค่ารักษาพยาบาล เป็น เงิน 125,287 บาท และ ดอกเบี้ยค่า ใส่ เอ็นเทียม 60,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ 34,600 บาท ค่าทดแทน30,000 บาท และ ค่าขาดประโยชน์ ที่ โจทก์ ไม่สามารถ ปฎิบัติงาน ได้ตาม ปกติ เดือน ละ 1,000 บาท จนกว่า โจทก์ จะ มี อายุ ครบ 60 ปี
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ว่า เกิดจาก ความประมาท ของ โจทก์ เอง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ใช้ ค่าสินไหมทดแทนแก่ โจทก์ เป็น เงิน 245,287 บาท พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า มี ปัญหา ตาม ฎีกา ของ จำเลย ทั้ง สอง ว่านาย วันชัย คนขับ รถ ของ จำเลย ขับ รถ ประมาท เลินเล่อ หรือไม่ โจทก์ เบิกความ ว่า โจทก์ ขับ รถจักรยานยนต์ ไป ตาม ถนน พระรามที่ 3 ถึง ที่เกิดเหตุ ซึ่ง เป็น บริเวณ หน้า วัดใหม่ช่องลม มี รถบรรทุกสิบล้อ ของ จำเลย ที่ 1 ขับ เคลื่อน ออกจาก ไหล่ ทาง เข้า มา ใน ช่อง เดินรถ ของ โจทก์โดย ไม่ เปิด ไฟ ท้าย ให้ สัญญา แล้ว เลี้ยว ขวา เพื่อ ที่ จะ กลับ รถ ผ่านช่องว่าง ระหว่าง เกาะกลางถนน ซึ่ง มี ป้าย เครื่องหมาย จราจร ห้าม กลับ รถเป็นเหตุ ให้ เฉี่ยว ชน รถจักรยานยนต์ ของ โจทก์ คว่ำ ลง ล้อ หลัง ของรถบรรทุก ทับ โจทก์ บริเวณ กลาง ลำตัว ขณะที่ นาย วันชัย คนขับ รถบรรทุก กลับ รถ อย่าง กระ ทัน หัน นั้น โจทก์ ได้ พยายาม ห้ามล้อ รถ และ หัก หลบจน ชิด เกาะกลางถนน แต่ ไม่ พ้น พิจารณา ตาม สำเนา แผนที่ สังเขปแสดง สถานที่เกิดเหตุ เอกสาร หมาย ล. 1 จะ เห็น ช่องว่าง ระหว่างเกาะกลางถนน มี รูป เป็น ส่วน โค้ง และ ส่วน เว้า ที่ แสดง ว่า เป็น ช่อง กลับ รถของ รถ ที่ สวนทาง มา แต่ ไม่ใช่ ช่อง กลับ รถ ของ รถ จำเลย ที่ สวนทาง ไปและ ยัง มี ป้าย เครื่องหมาย จราจร ห้าม กลับ รถ ปัก ไว้ ตรง หัว เกาะ ดังนี้การ ที่นาย วันชัย ขับ รถบรรทุก ของ จำเลย เคลื่อน ออกจาก ไหล่ ทาง แล้ว เลี้ยว ขวา ตัด หน้า รถ ทาง ตรง ที่ แล่น ตาม มา เพื่อ จะ กลับ รถ ข้าม ไป ยังอีก ถนน หนึ่ง นั้น โดยปกติ วิสัย จะ ต้อง ใช้ ความระมัดระวัง ดูแล ให้ รถที่ แล่น ตาม มา ได้ ผ่านพ้น ไป ให้ ปลอดภัย เสีย ก่อน พฤติการณ์ เชื่อ ได้ตาม คำเบิกความ ของ โจทก์ ว่า นาย วันชัย ขับ รถบรรทุก เลี้ยว ขวา ตัด หน้า รถจักรยานยนต์ ของ โจทก์ ใน ระยะ กระชั้นชิด โดย ไม่ ระมัดระวังดูแล ดังกล่าว เป็นเหตุ ให้ รถ เฉี่ยว ชนกัน อันเป็น ความประมาท เลินเล่อของ นาย วันชัย แต่ ฝ่ายเดียว กรณี ไม่ น่าเชื่อ ว่า โจทก์ ขับ รถจักรยานยนต์ ด้วย ความ อ่อน ต่อ ประสบการณ์ เนื่องจาก เพิ่ง ได้รับใบอนุญาต ขับขี่ ดัง ที่ จำเลย อ้าง ใน ฎีกา เพราะ โจทก์ และ นาง เจ็ง ทองมา มารดา ของ โจทก์ เบิกความ ว่า โจทก์ ขับ รถจักรยานยนต์ เป็น มา นาน หลาย ปี แล้วและ ที่ จำเลย ฎีกา ว่า โจทก์ ขับ รถจักรยานยนต์ ด้วย ความ เร็ว สูง มากก็ เป็น แต่เพียง ความเห็น จาก การ คาดคะเน ของ จำเลย โดย จำเลย ไม่มีพยานหลักฐาน แสดง ให้ เห็นว่า โจทก์ ขับ อย่าง ผิดปกติ วิสัย หรือ ขาดความระมัดระวัง อัน จะ ถือ เป็น ความประมาท เลินเล่อ ของ โจทก์ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ว่า เหตุ รถ เฉี่ยว ชน เกิดจาก ความประมาท เลินเล่อของ นาย วันชัย ซึ่ง เป็น คนขับ รถ ของ จำเลย
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา อีก ประการ หนึ่ง ว่า ศาลล่าง จะ รับฟัง เอกสาร หมายจ. 2 ถึง จ. 13 ซึ่ง เป็น รายละเอียด ค่าใช้จ่าย ผู้ป่วย และใบเสร็จรับเงิน ไม่ได้ เพราะ เป็น สำเนา เอกสาร และ จำเลย ได้ คัดค้านไว้ ใน ขณะ สืบพยาน ว่า ไม่มี ต้นฉบับ เมื่อ รับฟัง เอกสาร ดังกล่าว ไม่ได้ศาล จึง ไม่อาจ กำหนด ให้ จำเลย ชดใช้ ค่ารักษาพยาบาล ตาม เอกสาร ดังกล่าวใน ข้อ นี้ ได้ความ จาก ข้อ นำสืบ ของ โจทก์ ว่า โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท ผู้ รักษา พยาบาล โจทก์ ได้ เรียกเก็บเงิน ค่ารักษาพยาบาล ไป ยังบริษัท แอนด์บี โซลิเมค จำกัด ซึ่ง เป็น นายจ้าง ของ โจทก์ โจทก์ เบิกความ ว่า ผู้จัดการ บริษัท ดังกล่าว บอก โจทก์ ว่า ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน ค่ารักษาพยาบาล ของ โรงพยาบาล กล้วยน้ำไท หาย ไป หมด หา อยู่ 2-3 วัน ก็ ไม่พบ กรณี จึง ถือได้ว่า ต้นฉบับ เอกสาร สูญหายเมื่อ ศาลล่าง ยอมรับ ฟัง สำเนา เอกสาร ดังกล่าว ก็ เท่ากับ ศาล อนุญาตให้ นำ สำเนา เอกสาร มา สืบ แทน ต้นฉบับ ศาล จึง มีอำนาจ รับฟัง สำเนา เอกสารนั้น ได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) และมีอำนาจ กำหนด ให้ จำเลย ชดใช้ ค่ารักษาพยาบาล แก่ โจทก์ ตาม เอกสาร ดังกล่าว
พิพากษายืน

Share