คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524มาตรา19วรรคหนึ่งบัญญัติให้คชก.จังหวัดคชก.ตำบลหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการมีอำนาจเรียกผู้เช่าผู้ให้เช่าหรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือชี้แจงหรือส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการเช่ามาเพื่อประกอบการพิจารณาของคชก.จังหวัดหรือคชก.ตำบลได้แล้วแต่กรณีจึงเป็นอำนาจของคชก.จังหวัดหรือคชก.ตำบลที่จะเรียกผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือไม่ก็ได้ไม่ใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องเรียกบุคคลดังกล่าวมาให้ถ้อยคำเสมอไปการที่คชก.ตำบล ท. ไม่ได้เรียกเจ้าของที่ดินเดิมและผู้รับโอนที่นาพิพาทมาให้ถ้อยคำจึงไม่ทำให้การประชุมของคชก.ตำบล ท. เสียไปพระราชบัญญัติญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524มาตรา54บัญญัติให้ผู้เช่านามีสิทธิซื้อนาจากผู้รับโอนตามราคาและวิธีการชำระเงินที่ผู้รับโอนซื้อได้หรือตามราคาตลาดในขณะนั้นแล้วแต่ราคาใดจะสูงกว่ากันเมื่อได้ความว่าจำเลยทั้งสองผู้รับโอนซื้อที่นาพิพาทจากเจ้าของเดิมเนื้อที่19ไร่เศษในราคา110,000บาทการที่คชก.ตำบล ท. กำหนดให้โจทก์ผู้เช่าที่นาพิพาทซื้อคืนจากจำเลยทั้งสองในราคาไร่ละ20,000บาทจึงเป็นราคาที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดเวลาให้โจทก์ใช้สิทธิซื้อที่นาพิพาทคืนจากจำเลยทั้งสองด้วย

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า เมื่อ พ.ศ. 2525 โจทก์ ได้ เช่า นา โฉนด เลขที่ 4078ตำบล ท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา ของ นาย สายทิพย์ พรสุวรรณสิริ ต่อมา พ.ศ. 2531นาง สายทิพย์ และนายจรูญ พรสุวรรณสิริ ซึ่ง เป็น สามี ภรรยา กัน ได้ ขาย ที่นา ที่ โจทก์ เช่า ให้ แก่ จำเลย ทั้ง สอง ซึ่ง เป็น สามี ภรรยา กันโดย นาง สายทิพย์ ผู้ให้เช่า มิได้ แจ้ง ให้ โจทก์ ทราบ โจทก์ ได้ ร้องเรียน กรณี ดังกล่าว ต่อ คณะกรรมการ เช่า ที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรม (คชก. )ตำบล ท่าถ่าน คชก. ตำบล ท่าถ่าน ได้ จัด ให้ มี การ ประชุม เมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2531 โดย มี จำเลย ทั้ง สอง และ โจทก์ร่วม ประชุม ด้วยคณะกรรมการ วินิจฉัย ว่า นาง สายทิพย์ เจ้าของ ที่นา เดิม ได้ ขาย ที่นา ให้ แก่ จำเลย ที่ 2 โดย มิได้ แจ้ง ให้ โจทก์ ซึ่ง เป็น ผู้เช่า นา ทราบเป็น กรณี ที่ ผู้ให้เช่า มิได้ ปฎิบัติตาม พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดินเพื่อ เกษตรกรรม พ.ศ. 2524 จึง ลงมติ ให้ จำเลย ที่ 2 ผู้รับโอนขาย ที่นา พิพาท คืน ให้ แก่ โจทก์ ผู้เช่า ใน ราคา ตลาด ไร่ ละ 20,000 บาทโจทก์ และ จำเลย ทั้ง สอง ได้รับ ทราบ มติ ดังกล่าว แต่ ไม่ยอม ลงลายมือชื่อรับทราบ จำเลย ที่ 2 มิได้ อุทธรณ์ มติ ของ คชก. ตำบล ท่าถ่าน ที่ ให้ จำเลย ที่ 2 ขาย ที่นา พิพาท ให้ โจทก์ จึง เป็น อัน ยุติ โจทก์ ได้ ติดต่อขอ ซื้อ ที่นา พิพาท จาก จำเลย ทั้ง สอง ใน ราคา ไร่ ละ 20,000 บาท ตาม มติของ คชก. ตำบล ท่าถ่าน แต่ จำเลย ทั้ง สอง ปฏิเสธ ไม่ยอม ขาย ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ขาย คืน ที่นา พิพาท โฉนด เลขที่ 4078 เลขที่ 181หน้า สำรวจ 21 ตำบล ท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา ให้ แก่ โจทก์ และ รับ เงิน ค่าที่นา พิพาท จาก โจทก์ ไป ใน อัตรา ไร่ ละ 20,000 บาท รวมเป็น เงิน391,000 บาท หาก จำเลย ทั้ง สอง ไม่ ปฎิบัติตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษาแทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย ทั้ง สอง จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ว่า โจทก์ ไม่ได้ เช่า ที่ดิน โฉนด เลขที่ 4078ตำบล ท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา ทำนา จาก นาง สายทิพย์ พรสุวรรณศิริ ที่ จำเลย ทั้ง สอง ได้ ซื้อ มา จึง ไม่ได้ รับ ความคุ้มครอง ตาม พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรมพ.ศ. 2524 โจทก์ จึง ไม่มี อำนาจฟ้อง จำเลย ทั้ง สอง การ ประชุมคชก. ตำบล ท่าถ่าน ตาม ที่ โจทก์ อ้าง เป็น การ ประชุม ที่ ไม่ถูกต้อง ตาม กฎหมาย กล่าว คือ คณะกรรมการ ไม่ได้ เรียก นาง สายทิพย์ เข้าร่วม ประชุม และ ไม่ได้ กระทำการ สอบสวน ฝ่าย จำเลย ทั้ง สอง และ นาง สายทิพย์ การ ประชุม คชก. ตำบล ท่าถ่าน จึง ไม่มี ผลบังคับ ตาม พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรม พ.ศ. 2524 แต่อย่างใด จำเลย ทั้ง สองซื้อ ที่นา พิพาท มา ใน ราคา ไร่ ละ 60,000 บาท ปัจจุบัน มี ราคา ไร่ ละ100,000 บาท ขอให้ ยกฟ้อง ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง โจทก์ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ขาย คืนที่นา พิพาท โฉนด เลขที่ 4078 เลขที่ ดิน 181 หน้า สำรวจ 21ตำบล ท่าถ่าน อำเภอ พนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา ให้ แก่ โจทก์ ใน ราคา ไร่ ละ 20,000 บาทหาก จำเลย ทั้ง สอง ไม่ ปฎิบัติตาม ให้ ถือเอา ตาม คำพิพากษา แทน การแสดงเจตนา ของ จำเลย ทั้ง สอง จำเลย ฎีกา ศาลฎีกา วินิจฉัย ข้อกฎหมาย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ประการ แรก ว่าการ ประชุม ของ คชก. ตำบล ท่าถ่าน ครั้งที่ 3/2531 ลงวันที่ 19 กันยายน 2531 ชอบ ด้วย กฎหมาย หรือไม่ โดย จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา ว่าคชก. ตำบล ท่าถ่าน ไม่ได้ เรียก นาง สายทิพย์ พรสุวรรณสิริ เจ้าของ ที่ดิน เดิม เข้าร่วม ประชุม และ การ ประชุม ไม่ได้ สอบสวนฝ่าย จำเลย ทั้ง สอง และ นาง สายทิพย์ การ ประชุม ดังกล่าว จึง ไม่ชอบ ด้วย กฎหมาย เห็นว่า ตาม พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดิน เพื่อ เกษตรกรรมพ.ศ. 2524 มาตรา 19 วรรคหนึ่ง บัญญัติ ว่า “ให้ คชก. จังหวัดคชก. ตำบล หรือ ผู้ซึ่ง ได้รับ มอบหมาย จาก คณะกรรมการ ดังกล่าว มีอำนาจเรียก ผู้เช่า ผู้ให้เช่า หรือ ผู้ซึ่ง เกี่ยวข้อง มา ให้ ถ้อยคำหรือ ชี้แจง หรือ ส่ง เอกสาร หลักฐาน ที่ เกี่ยวกับ การ เช่า มา เพื่อประกอบการ พิจารณา ของ คชก. จังหวัด หรือ คชก. ตำบล ได้ แล้วแต่ กรณี “ดังนี้ จะ เห็น ได้ว่า เป็น อำนาจ ของ คชก. จังหวัด หรือ คชก. ตำบลที่ จะ เรียก ผู้เช่า หรือ ผู้ให้เช่า หรือ ผู้ที่ เกี่ยวข้อง มา ให้ ถ้อยคำหรือไม่ ก็ ได้ ไม่ใช่ กรณี ที่ กฎหมาย บังคับ ให้ ต้อง เรียก บุคคล ดังกล่าวมา ให้ ถ้อยคำ เสมอ ไป ดังนั้น การ ที่ คชก. ตำบล ท่าถ่าน ไม่ได้ เรียก นาง สายทิพย์ เจ้าของ ที่ดิน เดิม และ จำเลย ทั้ง สอง ผู้รับโอน ที่นา พิพาท มา ให้ ถ้อยคำ จึง ไม่ทำ ให้การ ประชุม ดังกล่าว เสีย ไป ปัญหา ตาม ฎีกา ของ จำเลย ที่ ว่า จำเลย ที่ 2 ซื้อ ที่นา พิพาท มาจากนาง สายทิพย์ ราคา ไร่ ละ 60,000 บาท ดังนั้น การ ที่ คชก. ตำบล ท่าถ่าน มี คำวินิจฉัย ให้ โจทก์ ซื้อ ที่นา พิพาท คืน ใน ราคา ไร่ ละ 20,000 บาทจึง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น เห็นว่า ตาม พระราชบัญญัติ การเช่าที่ดินเพื่อ เกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 54 บัญญัติ ให้ ผู้เช่า นา มีสิทธิซื้อ นา จาก ผู้รับโอน ตาม ราคา และ วิธีการ ชำระ เงิน ที่ ผู้รับโอน ซื้อ ไว้หรือ ตาม ราคา ตลาด ใน ขณะ นั้น แล้วแต่ ราคา ใด จะ สูง กว่า กัน ซึ่ง ตามราคา ที่ จำเลย ทั้ง สอง ซื้อ ที่นา พิพาท จาก เจ้าของ เดิม ตาม สำเนาหนังสือ สัญญาซื้อขาย เอกสาร หมาย ร.5 ระบุ ว่า จำเลย ทั้ง สอง ซื้อที่นา พิพาท จาก เจ้าของ เดิม ใน ราคา เพียง 110,000 บาท เท่านั้นที่ จำเลย ทั้ง สอง นำสืบ ว่า จำเลย ทั้ง สอง ซื้อ ที่นา พิพาท จากนาง สายทิพย์ ราคา ไร่ ละ 60,000 บาท คง มี แต่ พยานบุคคล เบิกความ ลอย ฯ ไม่อาจ รับฟัง ได้ ฟังได้ ว่า จำเลย ทั้ง สอง ซื้อ ที่นา พิพาท จากนาง สายทิพย์ 110,000 บาท การ ที่ คชก. ตำบล ท่าถ่าน กำหนด ให้ โจทก์ ซื้อ คืน ใน ราคา ไร่ ละ 20,000 บาท จึง มี ราคา สูง กว่า ราคาที่ จำเลย ทั้ง สอง ซื้อ จาก เจ้าของ เดิม ทั้ง น่าเชื่อ ว่าคชก. ตำบล ท่าถ่าน ทราบ ดีกว่า ราคา ตลาด ที่นา พิพาท ใน ขณะ นั้น มี เพียงใด เพราะ คชก. ตำบล ประกอบ ด้วย บุคคล ใด ใน ท้องถิ่น ที่ ที่นา พิพาทตั้ง อยู่ ดังนั้น ราคา ที่ กำหนด ให้ โจทก์ ซื้อ คืน จาก จำเลย ทั้ง สองจึง เป็น ราคา ที่ชอบ ด้วย กฎหมาย แล้ว อนึ่ง ศาลฎีกา เห็นสมควร กำหนด เวลาให้ โจทก์ ใช้ สิทธิ ซื้อ ที่นา พิพาท คืน จาก จำเลย ทั้ง สอง ด้วย พิพากษายืน โดย โจทก์ ต้อง ใช้ สิทธิ ซื้อ คืน ภายใน หก สิบ วันนับแต่ ได้ อ่าน คำพิพากษา ศาลฎีกา โดยชอบ เป็นต้น ไป มิฉะนั้น ให้ ถือว่าโจทก์ ไม่ประสงค์ จะซื้อ คืน อีก ต่อไป

Share