คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลย เมื่อจำเลยยอมรับว่าได้ย้ายภูมิลำเนาตามที่โจทก์ระบุในฟ้องไปแล้ว การที่พนักงานเดินหมายรายงานว่า ไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยตามภูมิลำเนาที่ระบุในฟ้อง พบบริษัทจำเลยปิดประตูใส่กุญแจทิ้งไว้ สอบถามบุคคลข้างเคียงได้ความว่าบริษัทจำเลยย้ายไปแล้วประมาณ 10 วัน ไม่ทราบไปอยู่ที่ไหนจึงถูกต้อง และเป็นกรณีที่ไม่สามารถส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยได้โดยวิธีธรรมดาศาลชั้นต้นสั่งให้ประกาศหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายธรรมดา จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 แล้ว
จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ภายหลัง 15 วันนับแต่วันส่งคำบังคับโดยอ้างว่าเพิ่งทราบว่าถูกฟ้องคดีเมื่อธนาคารแจ้งให้ทราบว่าศาลชั้นต้นสั่งอายัดเงิน เป็นการอ้างว่าเหตุที่ยื่นคำขอล่าช้าเพราะมีพฤติการณ์พิเศษนอกเหนือไม่อาจบังคับได้ เมื่อจำเลยยื่นคำขอภายใน 15 วัน นับแต่พฤติการณ์ดังกล่าวสิ้นสุดลง แต่ปรากฏว่าโจทก์ยังไม่มีโอกาสคัดค้านคำร้องของจำเลย ศาลฎีกาย่อมให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลย แล้วมีคำสั่งตามรูปคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายกรณีที่ลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกไปในทางการที่จ้างโดยประมาท เป็นเหตุให้ชนรถยนต์ที่นายวิสิษฐ์ขับ นายวิสิษฐ์ถึงแก่กรรม โจทก์ที่ ๑, ๒, ๓ ซึ่งเป็นมารดา ภริยา และบุตร ของผู้ตายตามลำดับ จึงนำคดีมาฟ้อง
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ ๑ เป็นเงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ และที่ ๓ เป็นเงิน ๓๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องพ้นกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๘ ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นจัดให้จำเลยได้รับหมายเรียกและสำเนาฟ้องโดยถูกต้องแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
โจทก์ทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าในการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยครั้งแรก พนักงานเดินหมายรายงานว่า ไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยตามภูมิลำเนาที่ระบุในฟ้องแต่พบบริษัทจำเลยปิดประตูใส่กุญแจทิ้งไว้ สอบถามบุคคลข้างเคียงแล้วได้ความว่าบริษัทจำเลยย้ายไปแล้วประมาณ ๑๐ วัน ไม่ทราบไปอยู่ที่ไหน โจทก์ยื่นคำแถลงว่าไปตรวจสอบหลักฐานจากสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ปรากฏว่าสำนักงานใหญ่ของจำเลยยังอยู่ที่เดิม จึงขอให้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยประกาศหนังสือพิมพ์ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้ประกาศหนังสือพิมพ์ส่วนกลางได้ ดังนี้ เมื่อจำเลยเองก็ยอมรับว่าได้ย้ายภูมิลำเนาตามที่โจทก์ระบุในฟ้องไปแล้ว ที่เจ้าหน้าที่ศาลรายงานตามรายงานเดินหมาย จึงถูกต้องและเป็นกรณีที่ไม่สามารถส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยได้โดยวิธีธรรมดา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของโจทก์ให้ประกาศทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายธรรมดาจึงถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ แล้ว
จำเลยยื่นคำร้องภายหลัง ๑๕ วันนับแต่วันส่งคำบังคับ โดยอ้างว่าเพิ่งทราบว่าถูกฟ้องคดีเมื่อสหธนาคาร จำกัด แจ้งให้ทราบว่าศาลชั้นต้นสั่งอายัดเงิน ซึ่งเป็นการอ้างว่าเหตุที่ยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่ล่าช้า เพราะมีพฤติการณ์พิเศษนอกเหนือไม่อาจบังคับได้ และจำเลยได้ยื่นคำขอภายใน ๑๕ วันนับแต่พฤติการณ์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลง ซึ่งโจทก์ยังไม่มีโอกาสคัดค้านคำร้องของจำเลย จึงเห็นควรให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของจำเลยเสียก่อน แล้วมีคำสั่งตามรูปคดี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่

Share