แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยได้จำหน่ายขายสุราของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสุราพ.ศ.2493มาตรา17นั้นมาตรา45ไม่ได้บัญญัติให้ริบสุราในกรณีเช่นนี้ไว้ศาลไม่ริบสุราของกลาง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้จำหน่ายขายสุราโดยมิได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิต โดยสุราที่จำหน่ายเป็นสุราที่ทำขึ้นในราชอาณาจักรเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมด้วยสุรายี่ห้อแสงทิพย์ จำนวนเศษหนึ่งส่วนสามแบน ขาดโซดาตราสิงห์ จำนวน 1 ขวดแก้วน้ำจำนวน 1 ใบ ใบเสร็จรับเงินจำนวน 1 ใบ เป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 3(4,4, 26 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 พระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 17, 40, 45 ริบสุราของกลางเป็นของกรมสรรพสามิตส่วนของกลางอื่นนอกนั้นคืนแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 3(4), 4 วรรคสอง,26 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493มาตรา 17, 40, 45 จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เรียงกระทงลงโทษ ฐานตั้งสถานบริการโดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ปรับ 3,000 บาท ฐานขายสุราโดยมิได้รับอนุญาตปรับ 250 บาท รวมลงโทษปรับ 3,250 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 สำหรับสุราของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดโดยตรง ไม่สมควรริบจึงไม่ริบ และให้คืนของกลางแก่เจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบสุราของกลาง โดยอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาขอให้ริบสุราของกลางนั้นเห็นว่ากรณีจำเลยได้จำหน่ายขายสุราของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิตอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 17 นั้น ตาม มาตรา 45 ไม่ได้บัญญัติให้ริบสุราในกรณีเช่นนี้ ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 508/2494 (ประชุมใหญ่)ระหว่าง อัยการจังหวัดอุบลราชธานี โจทก์ นายเทพ พะโลชัย จำเลยที่ศาลล่างทั้งสองไม่ริบสุราของกลางตามฟ้องของโจทก์นั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน