คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยรับมอบเหรียญหลวงปู่แหวนจำนวน20องค์ราคาองค์ละ10บาทรวมราคา200บาทจากผู้เสียหายเพื่อเอาไปจำหน่ายให้กับประชาชนโดยทั่วไปแล้วจะต้องนำเงินที่จำหน่ายเหรียญดังกล่าวมอบให้ผู้เสียหายในวันเดียวกันต่อมาวันเดียวกันนี้จำเลยซึ่งได้ครอบครองเงินค่าจำหน่ายเหรียญดังกล่าวจำนวน200บาทได้เบียดบังยักยอกเอาเงินดังกล่าวของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริตดังนี้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยครอบครองเงินค่าจำหน่ายเหรียญของผู้เสียหายมีหน้าที่ต้องนำเงินดังกล่าวมาคืนให้ผู้เสียหายแต่แล้วได้เบียดบังยักยอกไปอันครบองค์ความผิดฐานยักยอกแล้วและจำเลยรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงต้องฟังเป็นที่ยุติตามคำฟ้องและคำให้การว่าเงินค่าจำหน่ายเหรียญเป็นของผู้เสียหายเมื่อจำเลยเบียดบังไปโดยทุจริตจำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอก.

ย่อยาว

โจทก์ บรรยายฟ้อง ว่า จำเลย รับ มอบ เหรียญ หลวงปู่แหวน จำนวน 20 องค์ราคา องค์ละ 10 บาท รวม ราคา 200 บาท จาก นาง อำไพ ใจเที่ยง ผู้เสียหาย เพื่อ เอา ไป จำหน่าย ให้ กับ ประชาชน โดย ทั่วไป แล้ว จะ ต้อง นำเ งินที่ จำหน่าย เหรียญ ดังกล่าว มอบ ให้ ผู้เสียหาย ใน วันเดียวกัน ต่อมาระหว่าง เวลา 8 – 16 นาฬิกา ของ วันเดียวกัน นี้ จำเลย ซึ่ง ได้ครอบครอง เงิน ค่า จำหน่าย เหรียญ ดังกล่าว จำนวน 200 บาท ได้ เบียดบังยักยอก เอา เงิน ดังกล่าว ของ ผู้เสียหาย ไป เป็น ประโยชน์ ของ จำเลยโดย ทุจริต ขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ให้ จำเลยคืน หรือ ใช้ ราคา ทรัพย์ จำนวน 200 บาท แก่ ผู้เสียหาย
จำเลย ให้การ รับสารภาพ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว เห็น ว่า การ กระทำ ของ จำเลย เป็น เรื่องผิด สัญญา ทาง แพ่ง ไม่ เป็น ความผิด อาญา พิพากษา ยกฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า โจทก์ บรรยายฟ้อง ยืนยัน ข้อเท็จจริง ว่า จำเลยครอบครอง เงิน ค่า จำหน่าย เหรียญ ของ ผู้เสียหาย มี หน้าที่ ต้อง นำเงิน ตาม ฟ้อง มา คืน ผู้เสียหาย แต่ แล้ว ได้ เบียดบัง ยักยอก ไป อันครบ องค์ความผิด ฐาน ยักยอก แล้ว และ จำเลย ให้การ รับสารภาพข้อเท็จจริง จึงต้อง ฟัง ตาม ที่ กล่าว ใน ฟ้อง ว่า เงิน ค่า จำหน่ายเหรียญ เป็น ของ ผู้เสียหาย เมื่อ จำเลย เบียดบัง ไป โดย ทุจริต ตาม ที่ยุติ ใน คำฟ้อง และ คำให้การ การ กระทำ ของ จำเลย จึง เป็น ความผิด อาญาดัง ที่ โจทก์ ฟ้อง
พิพากษา กลับ เป็น ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา352 ลงโทษ จำคุก 2 เดือน จำเลย รับสารภาพ มี เหตุ บรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง จำคุก 1 เดือน แต่ ให้ รอการ ลงโทษ ไว้ มี กำหนด 1 ปี ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ให้ จำเลยคืน หรือ ใช้ เงิน 200 บาท ให้ ผู้เสียหาย.

Share