คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1860/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

บุตรของผู้ตายตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ50(3)มิใช่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนตลอดไปจนกว่าจะครบกำหนดตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนแต่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนเฉพาะในระหว่างที่ตนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดหากขาดคุณสมบัติดังกล่าวแล้วแม้ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้จะมิได้กำหนดให้ส่วนแบ่งของบุตรของผู้ตายเป็นอันยุติหรือเหตุดังกล่าวไม่ใช่เหตุตามที่ระบุไว้ในข้อ50วรรคสามซึ่งกำหนดให้ส่วนแบ่งของผู้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนเป็นอันยุติก็ตามก็ต้องถือว่าเป็นอันยุติไปโดยผลของข้อ50(3)เมื่อส.บุตรของผู้ตายมีอายุครบสิบแปดปีและมิได้ศึกษาอยู่ซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะได้รับเงินทดแทนจากจำเลยสิทธิเรียกร้องของส.จึงเป็นอันยุติจำเลยไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้แก่ส.และประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าวมิได้กำหนดให้สิทธิของส.โอนหรือตกทอดไปยังโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นภรรยาและบุตรอีกผู้หนึ่งของผู้ตายหรือมิได้กำหนดให้จำเลยต้องนำเงินทดแทนอันเป็นส่วนของส.มาเฉลี่ยแบ่งจ่ายให้แก่โจทก์โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินทดแทนอันเป็นส่วนของส..

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ที่ 1 เป็น ภรรยา ของ นาย จรูญ และ เป็น มารดาผู้แทน โดย ชอบธรรม ของ โจทก์ ที่ 2 นาย จรูญ ซึ่ง เป็น ลูกจ้าง ของจำเลย ได้ ถึง แก่ ความตาย เนื่องจาก การ ทำงาน ให้ จำเลย จำเลย จ่ายเงิน ทดแทน ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สอง และ นาย สำเริง ตาม คำสั่ง ของพนักงาน เงินทดแทน หลังจาก วันที่ 13 สิงหาคม 2526 จำเลย ไม่ ยอม จ่ายเงินทดแทน ส่วน ของ นาย สำเริง โดย อ้าง ว่า นาย สำเริง มี อายุ ครบสิบแปดปี และ มิได้ ศึกษา อยู่ ซึ่ง เงิน ส่วน ของ นาย สำเริง นี้จำเลย จะ ต้อง นำ มา เฉลี่ย จ่าย ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สอง ขอ ให้ บังคับจำเลย จ่าย เงินทดแทน ดังกล่าว พร้อม ดอกเบี้ย แก่ โจทก์ ทั้ง สอง
จำเลย ให้การ ว่า นาย สำเริง หมด สิทธิ ได้ รับ เงินทดแทน แล้ว กรณีไม่ มี กฎหมาย บัญญัติ ให้ จำเลย ต้อง นำ เงินทดแทน ส่วน ของ ทายาท ที่หมด สิทธิ รับ มา เฉลี่ย แบ่ง จ่าย ให้ แก่ ทายาท อื่น จำเลย ไม่ ต้องจ่าย เงินทดแทน ส่วน ของ นาย สำเริง ให้ โจทก์ ทั้ง สอง ขอ ให้ ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลาง พิพากษา ให้ จำเลย จ่าย เงินทดแทน ส่วน ของ นาย สำเริงและ ดอกเบี้ย ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สอง ตาม ฟ้อง
จำเลย อุทธรณ์ ต่อ ศาลฎีกา
ศาลฎีกา แผนก คดีแรงงาน วินิจฉัย ว่า ประกาศ กระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 50 วรรคแรก ซึ่ง ระบุ ว่า ‘เมื่อ ลูกจ้าง ประสบอันตราย หรือ เจ็บป่วย จน ถึง แก่ ความตาย ให้ บุคคล ดังต่อไปนี้ มีสิทธิ ได้ รับ เงินทดแทน จาก นายจ้าง คือ (1) บิดา มารดา (2) สามี หรือภรรยา (3) บุตร ซึ่ง มี อายุ ต่ำกว่า สิบแปดปี เว้น แต่ เมื่อ มี อายุครบ สิบแปดปี แล้ว กำลัง ศึกษา อยู่ ให้ ได้ รับ ส่วนแบ่ง ต่อไป ตลอดระยะ เวลา ที่ ศึกษา อยู่ (4)…….’ นั้น เป็น บทกำหนด ประเภท ของทายาท ผู้ มี สิทธิ ได้ รับ เงิน ทดแทน จาก นายจ้าง โดยเฉพาะ บุตร ของผู้ตาย ตาม ข้อ 50(3) มิใช่ มี สิทธิ ได้ รับ เงินทดแทน ตลอด ไป จนกว่าจะ ครบ กำหนด ตาม คำสั่ง ของ พนักงาน เงินทดแทน แต่ มี สิทธิ ได้ รับเงินทดแทน เฉพาะ ใน ระหว่าง ที่ ตน มี คุณสมบัติ ครบถ้วน ตาม ที่กฎหมาย กำหนด เท่านั้น กรณี ที่ บุตร ของ ผู้ตาย ขาด คุณสมบัติ ซึ่งเป็น หลักเกณฑ์ ที่ ทำ ให้ หมด สิทธิ ที่ จะ ได้ รับ เงินทดแทน ต่อไปแม้ ประกาศ กระทรวงมหาดไทย ฉบับ ดังกล่าว จะ มิได้ กำหนด ให้ ส่วนแบ่งของ บุตร ของ ผู้ตาย เป็น อัน ยุติ หรือ เหตุ ดังกล่าว ไม่ ใช่ เหตุหนึ่ง เหตุ ใด ตาม ที่ ระบุ ไว้ ใน ข้อ 50 วรรคสาม ซึ่ง กำหนด ให้ส่วนแบ่ง ของ ผู้ มี สิทธิ ได้ รับ เงินทดแทน เป็น อัน ยุติ ก็ ตามก็ ต้อง ถือ ว่า เป็น อัน ยุติ ไป โดย ผล ของ ข้อ 50(3) นายจ้าง ไม่ต้อง รับผิด ต่อ บุตร ของ ผู้ตาย เมื่อ นาย สำเริง บุตร ของ ผู้ตาย มีอายุ ครบ สิบแปด ปี และ มิได้ ศึกษา อยู่ ซึ่ง ขาด คุณสมบัติ ที่ จะได้ รับ เงิน ทดแทน จาก จำเลย สิทธิ เรียกร้อง ของ นาย สำเริง จึง เป็นอัน ยุติ จำเลย ไม่ มี หน้าที่ ต้อง จ่าย เงินทดแทน ให้ แก่ นาย สำเริงและ ประกาศ กระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มิได้ กำหนด ให้สิทธิ ของ นาย สำเริง โอน หรือ ตกทอด ไป ยัง โจทก์ ทั้ง สอง หรือ มิได้กำหนด ให้ จำเลย ต้อง นำ เงินทดแทน อัน เป็น ส่วน ของ นาย สำเริง มาเฉลี่ย แบ่ง จ่าย ให้ แก่ โจทก์ ทั้ง สอง แล้ว โจทก์ ทั้ง สอง ย่อมไม่ มี สิทธิ เรียกร้อง เงินทดแทน อัน เป็น ส่วน ของ นาย สำเริง
พิพากษา กลับ ให้ ยกฟ้อง โจทก์ ทั้ง สอง

Share