คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้นายจ้างจะทำสัญญาจ้างแรงงานกับลูกจ้างหลังจากรับลูกจ้างเข้าทำงานแล้ว1เดือน นายจ้างและลูกจ้างก็ต้องผูกมัดกันตามสัญญานั้นการที่นายจ้างรับลูกจ้างเข้าทำงานก่อนทำสัญญาจ้างไม่อาจถือได้ว่าเป็นการรับเข้าทำงานโดยปราศจากเงื่อนไขเมื่อปรากฏว่าในสัญญาจ้างได้กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนนายจ้างย่อมเลิกจ้างลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชยจากจำเลยซึ่งเป็นนายจ้าง จำเลยให้การว่าเป็นการจ้างที่ได้กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนจึงสามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 59 ไม่ได้ลงชื่อในฟ้อง ฟ้องโจทก์เหล่านี้ไม่สมบูรณ์ โจทก์ที่ 1 ทำสัญญาจ้างกับจำเลยที่ 1 โดยกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการจ้างไว้แน่นอน เมื่อจำเลยที่ 1เลิกจ้างโจทก์ที่ 1 ตามกำหนดนั้น จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ที่ 1 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 1 ตกลงรับโจทก์ที่ 1 เข้าทำงานนั้น ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกำหนดว่าไม่ต้องทำสัญญาจ้าง การที่จำเลยที่ 1 ยินยอมให้โจทก์ที่ 1 เข้าทำงานไปก่อนโดยมิได้ทำสัญญาจ้างทันทีจะถือว่าจำเลยที่ 1 รับโจทก์ที่ 1 เข้าทำงานเป็นลูกจ้างโดยปราศจากเงื่อนไขใด ๆ หาได้ไม่ตามพฤติการณ์ซึ่งได้ความว่าหลังจากโจทก์ที่ 1 ทำงานเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ 1 เดือนแล้วโจทก์ที่ 1ก็ตกลงทำสัญญาจ้างกับจำเลยที่ 1 แสดงว่าในการจ้างกันนั้นโจทก์ที่ 1กับจำเลยที่ 1 ต่างมีเจตนาที่จะทำสัญญาจ้างผูกมัดต่อกันไว้ เมื่อโจทก์ที่ 1 ทำสัญยาจ้างกับจำเลยที่ 1 ด้วยความสมัครใจ สัญญาจ้างย่อมมีผลผูกพันโจทก์ที่ 1 หาใช่เป็นการทำสัญญาจ้างซึ่งจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 20ไม่เมื่อสัญญาจ้างกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและจำเลยที่ 1เลิกจ้างโจทก์ที่ 1 ตามกำหนดนั้น จำเลยที่ 1 ได้รับยกเว้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 วรรคสาม ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ที่ 1 ชอบแล้วอุทธรณ์โจทก์ที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share