คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ป.อ.มาตรา340ตรี เป็นบทลงโทษผู้กระทำผิดตามมาตรา339,339ทวิ,340หรือ340ทวิหนักขึ้นจึงต้องตีความโดยเคร่งครัดคือหมายความเฉพาะตัวผู้กระทำผิดตามที่ระบุไว้ในมาตรา340ตรีเท่านั้นเมื่อจำเลยมิได้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำผิดแม้จะร่วมกับคนร้ายอื่นซึ่งใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะทำการปล้นทรัพย์จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษหนักขึ้นตามมาตรา340ตรี.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19 นาฬิกาเศษคนร้าย 3 คน ร่วมกันปล้นทรัพย์เอารถจักรยานยนต์ 1 คัน ราคา 28,000บาท ซึ่งนายสุทัศน์ผู้เสียหายเช่ามาจากเรือตรีวินัย เชื้อเจ็ดตนรุ่งขึ้นตำรวจจับจำเลยได้ โจทก์มีประจักษ์พยานคือนายสุทัศน์ผู้เสียหายเบิกความว่า จำเลยว่าจ้างผู้เสียหายให้ขับรถจักรยานยนต์จากกลางซอยแซ่ซิ้มให้ไปส่งที่ซอยวัฒนา โดยจำเลยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียหายขับไป ระหว่างทางพบนายสมบูรณ์ แซ่ชิ้งขับรถจักรยานยนต์สวนทางจึงหยุดรถพูดกันประมาณ 1 นาทีก็ขับรถต่อไปเข้าไปในซอยวัฒนา จำเลยสั่งให้จอดรถที่บ้านหลังหนึ่งจำเลยเคาะประตูบ้าน แต่ไม่มีใครเปิดรับ จำเลยบอกให้ออกรถไปขณะผู้เสียหายติดเครื่องรถก็ถูกคนร้าย 2 คน ซึ่งนั่งรถจักรยานยนต์มาใช้ปืนและมีดจี้ขู่บังคับ ใช้มือบีบคอผู้เสียหาย จำเลยก็ใช้มีดปลายแหลมจ่อจี้ที่เอวผู้เสียหาย คนร้ายสั่งให้ผู้เสียหายลงจากรถและผลักผู้เสียหายเซไปแล้วจำเลยจับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป คนร้ายอีก 2 คนก็ขับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งหลบหนีไป บริเวณที่เกิดเหตุมีไฟฟ้าส่องสว่างเห็นได้ชัดเจน นอกจากประจักษ์พยานดังกล่าวแล้ว โจทก์ยังมีพยานแวดล้อมใกล้ชิดพยานโจทก์ที่นำสืบมีน้ำหนักมั่นคงพอฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายรายนี้ แล้วศาลฎีการวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหามีว่า การที่พวกของจำเลยคือคนร้ายอีก 2 คนกระทำผิดโดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ แต่จำเลยมิได้ใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด จำเลยจะต้องร่วมรับผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรี ด้วยหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มาตรา 340 ตรีเป็นบทลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา 339, 339 ทวิ, 340, หรือ 340ทวิ หนักขึ้น จึงต้องตีความโดยเคร่งครัด คือหมายความเฉพาะตัวผู้กระทำตามที่ระบุไว้ในมาตรา 340 ตรี เท่านั้น สำหรับจำเลยนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยไม่ได้ใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดจำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 340 ตรี คงมีความผิดตามมาตรา 340วรรคสอง”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีและลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share