คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4315/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญา จำเลยให้การว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว โดยชำระผ่าน ป.ตัวแทนของโจทก์ ดังนั้นการที่ศาลวินิจฉัยว่า ป.เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ต่อมาจำเลยทำสัญญายอมชำระหนี้ให้โจทก์ ๑๒๐,๐๐๐ บาท และมอบที่ดินมีโฉนดเป็นประกัน โดยจะผ่อนชำระหนี้แก่โจทก์เป็นงวด งวดละ ๒๒,๕๐๐ บาท จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์รวมเป็นเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท ค้างชำระอีก๕๐,๐๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ที่เหลือแก่โจทก์พร้อมค่าเสียหายเท่าดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าวตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วโดยชำระผ่านนายประสาร สูยะนันท์ ทนายความตัวแทนของโจทก์ ๔ ครั้งเป็นเงิน ๙๕,๐๐๐ บาทต่อมาจำเลยนำเงิน ๒๕,๐๐๐ บาทที่ยังขาดอยู่ไปชำระให้โจทก์ พร้อมขอรับโฉนดที่ดินคืน โจทก์ไม่รับอ้างว่าเงินงวดที่ ๓ และที่ ๔ นายประสารยังไม่นำมามอบให้โจทก์ จำเลยจึงนำเงิน ๒๕,๐๐๐ บาทไปวาง ณ สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดีเป็นการชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยจึงไม่เป็นผู้ผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้องโจทก์และให้โจทก์คืนโฉนดที่ดินแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่เคยขอชำระหนี้ ๒๕,๐๐๐ บาท แก่โจทก์ โจทก์ไม่ได้แต่งตั้งให้นายประสาร สูยะนันท์ เป็นตัวแทนเพื่อรับชำระหนี้จากจำเลยจำเลยไม่เคยมอบเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทแก่นายประสารและโจทก์ไม่เคยรับเงินดังกล่าวจากนายประสาร ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์คืนโฉนดที่ดินแก่จำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า นายประสาร สูยะนันท์ เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ในวันชี้สองสถานว่าจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำให้การของจำเลยได้กล่าวอ้างว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วโดยชำระผ่านนายประสาร สูยะนันท์ ตัวแทนโจทก์ ดังนั้นการที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า นายประสาร สูยะนันท์ เป็นตัวแทนเชิดของโจทก์ได้รับชำระหนี้แทนโจทก์ไม่เป็นการเพิ่มประเด็นจากที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ เพราะเป็นการวินิจฉัยในประเด็นที่ว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนตามสัญญาหรือไม่ และตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังได้เป็นยุติว่าจำเลยชำระหนี้งวดที่ ๓ และงวดที่ ๔ รวมเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทให้แก่นายประสารตัวแทนเชิดของโจทก์แล้ว ก็เสมือนโจทก์ได้รับชำระหนี้จากจำเลยแล้ว จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้
พิพากษายืน

Share