คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 66/2553

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำร้องขอที่ให้ศาลมีคำสั่งว่า จ. เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความพิทักษ์ของผู้ร้องจะมีคำขอมาด้วยกันเป็นการล่วงหน้าเพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้พิทักษ์เป็นผู้มีอำนาจทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่กล่าวไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 34 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง ได้ด้วยตนเองไม่ได้ เนื่องจากคำร้องขอของผู้ร้องเป็นแต่เพียงการขอล่วงหน้าโดยยังไม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ตามที่ขอเกิดขึ้นจริง จึงไม่มีข้อเท็จจริงที่จะให้ศาลนำมาพิจารณาวินิจฉัยเพื่อใช้ดุลพินิจได้ ศาลจึงมีคำสั่งยกคำขอส่วนนี้ของผู้ร้อง

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนางจินตนา ซึ่งป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก ไม่สามารถจัดการงานด้วยตนเองได้ ขอให้สั่งว่านางจินตนาเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ อยู่ในความพิทักษ์ของผู้ร้อง และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้พิทักษ์เป็นผู้มีอำนาจกระทำการ หรือให้เช่าสังหาริมทรัพย์มีกำหนดระยะเวลาเกินกว่าหกเดือน หรืออสังหาริมทรัพย์มีกำหนดระยะเวลาเกินกว่าสามปี หรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจะได้มาหรือปล่อยไปซึ่งสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ หรือในสังหาริมทรัพย์อันมีค่า เสนอคดีต่อศาลหรือดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ และประนีประนอมยอมความแทนคนเสมือนไร้ความสามารถได้
ศาลประกาศวันนัดไต่สวนแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า นางจินตนา เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถและให้อยู่ในความพิทักษ์ของนางสาวนันทวรรณผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “ที่ผู้ร้องฎีกาว่า ศาลชั้นต้นยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอของผู้ร้องที่ขอให้สั่งอนุญาตให้ผู้ร้องในฐานะผู้พิทักษ์เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนนางจินตนา คนเสมือนไร้ความสามารถจึงเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งเฉพาะคำขอของผู้ร้องที่ให้นางจินตนาเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ และให้อยู่ในความพิทักษ์ของผู้ร้อง โดยไม่ได้สั่งอนุญาตให้ผู้ร้องมีอำนาจกระทำการแทนอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ผู้ร้องขอ เช่นนี้พอที่จะอนุโลมถือได้ว่า ศาลชั้นต้นสั่งยกคำขอให้ข้อนี้ของผู้ร้อง ทั้งผู้ร้องก็ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก็ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องแล้ว ปัญหาที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยจึงมีตามที่ผู้ร้องฎีกาว่า ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำขอโดยไม่อนุญาตให้ผู้ร้องในฐานะผู้พิทักษ์เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนนางจินตนาคนเสมือนไร้ความสามารถนั้นชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 34 วรรคสาม ที่บัญญัติว่า ในกรณีที่คนเสมือนไร้ความสามารถไม่สามารถจะทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่กล่าวมาในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองได้ด้วยตนเอง เพราะเหตุมีกายพิการหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ศาลจะสั่ง่ให้ผู้พิทักษ์เป็นผู้มีอำนาจกระทำการนั้นแทนคนเสมือนไร้ความสามารถก็ได้ มีความหมายว่า จะต้องมีกรณีใดกรณีหนึ่งเกิดขึ้นแล้ว และปรากฏข้อเท็จจริงว่าคนเสมือนไร้ความสามารถไม่สามารถกระทำการนั้นๆ ในสถานการณ์หรือเวลาในขณะนั้นได้ด้วยตนเองเพราะเหตุมีกายพิการหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ กรณีใดกรณีหนึ่งนั้นจะต้องมีรายละเอียดข้อเท็จจริงพอที่จะทำให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจฉัยพิจารณาวินิจฉัยว่า สมควรจะอนุญาตให้ผู้พิทักษ์มีอำนาจกระทำการนั้นแทนคนเสมือนไร้ความสามารถหรือไม่เมื่อตามคำร้องและคำขอของผู้ร้องเป็นแต่เพียงการขอล่วงหน้าโดยยังไม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ตามที่ขอเกิดขึ้นจริง จึงไม่มีข้อเท็จจริงที่จะให้ศาลนำมาพิจารณาวินิจฉัยเพื่อใช้ดุลพินิจได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งยกคำขอของผู้ร้องในส่วนนี้ชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share