แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัท ส. จัดซื้อที่ดินตามโครงการจัดสรรที่ดินระหว่างโจทก์กับบริษัท ส. โดยให้โจทก์ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไว้ มีข้อสัญญาว่าหากโครงการระหว่างกันต้องเลิกล้มไป โจทก์จะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืนแก่บริษัท ส. เมื่อโครงการดังกล่าวเลิกล้มไปและโจทก์โอนที่ดินคืนให้บริษัท ส. แม้จะทำเป็นสัญญาซื้อขายกันก็ตามเมื่อโจทก์ไม่ได้รับเงินค่าขายที่ดิน โจทก์จึงมิได้มีรายรับจากราคาที่ดินและไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้า การที่เจ้าพนักงานประเมินให้โจทก์เสียภาษีการค้าจากราคาที่ดินดังกล่าว จึงไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองสำนวนได้รับแบบคำสั่งให้เสียภาษีการค้า เงินเพิ่มเบี้ยปรับและภาษีบำรุงเทศบาลรวมเป็นเงิ๑๖ ล้านบาทเศษ โดยอ้างว่าโจทก์มีรายรับจากการขายที่ดิน โจทก์อุทธรณการประเมิน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์โจทก์โจทก์เห็นว่าการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่ชอบเพราะการที่โจทก์ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินรวม ๘ โฉนดเป็นการถือกรรมสิทธิ์แทนบริษัทสยามแลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และก็ได้โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินคืนบริษัทดังกล่าวไปโดยมิได้มีการชำระราคาที่ดินกันแต่อย่างใโจทก์จึงมิได้เป็นผู้ประกอบการค้า ขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าตามสัญญาซื้อขายที่ดินปรากฏว่า ผู้ซื้อที่ดินคือโจทก์ไม่ปรากฏว่ากระทำแทนผู้ใดและโจทก์เป็นผู้ชำระราคาที่ดินนั้นเอง การที่โจทก์ขายที่ดินต่อไปให้กับบริษัทสยามแลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพราะโจทก์ไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ โจทก์จึงต้องเสียภาษีการค้าจากรายรับการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินภาษีการค้าและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ทั้งสองสำนวน
จำเลยทั้งสี่ของทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทำสัญญากับบริษัทสยามแลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ว่า บริษัทดังกล่าวจะจัดซื้อที่ดินตามโครงการที่อยู่อาศัยสหกรณ์เคหสถาน ๑๐ ให้โจทก์ถือกรรมสิทธิ์ไว้เป็นการล่วงหน้า แต่หากโจทก์และบริษัทดังกล่าวมิอาจตกลงกันได้ โจทก์จะโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินเหล่านั้นคืนให้แก่บริษัทดังกล่าวหรือบุคคลอื่นที่บริษัทกำหนด และบริษัทดังกล่าวจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้โจทก์ ต่อมามีการล้มเลิกโครงการที่อยู่อาศัยสหกรณ์เคหสถาน ๑๐ โจทก์จึงได้โอนที่ดินเหล่านั้นให้แก่บริษัทดังกล่าวโดยทำเป็นสัญญาซื้อขายในราคาเท่ากันกับที่ได้ทำสัญญาซื้อมา แล้ววินิจฉัยว่า ประมวลรัษฎากรมาตรา ๗๘ บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าจากรายรับ และมาตรา ๗๙บัญญัติว่า รายรับหมายถึง เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือประโยชน์ใด ๆ อันมีมูลค่าที่ได้รับหรือพึงได้รับเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้รับเงินค่าที่ดินตามสัญญาขายที่ดินให้แก่บริษัทสยามแลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หากแต่เป็นการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกัน และเมื่อโครงการที่อยู่อาศัยสหกรณ์เคหสถาน ๑๐ ต้องล้มเลิกไป โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใดอันจะถือเป็นรายรับได้นอกจากค่าชดเชย โจทก์จึงมิได้มีรายรับจากราคาที่ดินที่โจทก์ทำสัญญาขายให้แก่บริษัทดังกล่าวดังที่เจ้าพนักงานประเมินเรียกเก็บภาษีจากโจทก์ แม้โจทก์จะทำเป็นสัญญาขายที่ดินให้แก่บริษัทดังกล่าว มิได้กระทำอย่างตรงไปตรงมาแม้จะไม่สมควรก็ไม่ทำให้กลายเป็นว่าโจทก์เป็นผู้ได้รับเงินค่าขายที่ดินดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้าตามที่เจ้าพนักงานประเมิน การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
พิพากษายืน.