แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
แม้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นราชการส่วนกลางตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515ข้อ 3 และข้อ 5(4) แต่ไม่ปรากฏว่าโรงงานกระดาษเป็นส่วนราชการของกรมโรงงานอุตสาหกรรมด้วย โรงงานกระดาษกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงมิใช่ราชการส่วนกลางไม่ได้รับยกเว้นมิให้ใช้ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 บังคับกรมโรงงานอุตสาหกรรมจำเลยในฐานะเป็นนิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของโรงงานกระดาษกรมโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นนายจ้างของโจทก์จึงอาจถูกฟ้องให้รับผิดจ่ายค่าชดเชยได้
ย่อยาว
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์สำนวนที่ 1 เป็นเงิน 12,333.60 บาท โจทก์สำนวนที่ 2 เป็นเงิน 14,032.80 บาท โจทก์สำนวนที่ 3 เป็นเงิน 14,032.80 บาท โจทก์สำนวนที่ 4 เป็นเงิน 11,332.80บาท โจทก์สำนวนที่ 5 เป็นเงิน 15,450 บาท โจทก์สำนวนที่ 6 เป็นเงิน 9,960 บาท โจทก์สำนวนที่ 8 เป็นเงิน 12,600 บาท โจทก์สำนวนที่ 9 เป็นเงิน 8,064บาท และให้ยกฟ้องโจทก์สำนวนที่ 7 ผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้างคนหนึ่งทำความเห็นแย้งว่า ควรพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์สำนวนที่ 7 ด้วย โจทก์สำนวนที่ 7 และจำเลยสำนวนที่ 1 ถึงที่ 6 กับสำนวนที่ 8 ที่ 9 ศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยอุทธรณ์เป็นประการแรกว่า โรงงานกระดาษเป็นหน่วยงานที่สังกัดกรมโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งเป็นราชการส่วนกลาง ย่อมไม่อยู่ในบังคับของประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ตามข้อ 1 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนั้นโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิเคราะห์แล้วแม้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นราชการส่วนกลางตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน2515 ข้อ 3 และข้อ 5(4) แต่ไม่ปรากฏว่าโรงงานกระดาษเป็นส่วนราชการของกรมโรงงานอุตสาหกรรมด้วย โรงงานกระดาษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงมิใช่ราชการส่วนกลาง ไม่ได้รับยกเว้นมิให้ใช้ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 บังคับ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจำเลยในฐานะเป็นนิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของโรงงานของโรงงานกระดาษ กรมโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นนายจ้างของโจทก์สำนวนที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 6 ที่ 9 และของนายจรูญ ตระกูลธรรม จึงอาจถูกฟ้องให้รับผิดจ่ายค่าชดเชยได้”
พิพากษายืน