คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทโดยมิได้ลงวันสั่งจ่ายผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายและทำการโดยสุจริต ก็มีอำนาจที่จะจดวันออกเช็คตามที่ถูกต้องแท้จริงลงได้ ไม่ทำให้เช็คพิพาทเป็นเอกสารปลอม และการจดวันออกเช็คในกรณีดังกล่าวมิใช่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็คตามความหมายของมาตรา 1007
เมื่อฟังไม่ได้ว่าการโอนเช็คพิพาทระหว่าง ล. กับโจทก์มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล แม้จำเลยจะสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ ล. โดยมีมูลหนี้มาจากการเล่นการพนันสลากกินรวบจำเลยก็จะยกเหตุดังกล่าวซึ่งเป็นความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคล. ระหว่างจำเลยกับ ล. ซึ่งเป็นผู้ทรงคนก่อนมาเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 916 เช็คพิพาทจึงไม่ตกเป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัดสาขาปากคลองตลาดหมายเลข พี.เค. ล.๓๒๓๒๕๕ ลงวันที่ ๒๕ เมษายน๒๕๒๐ จำนวนเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ เมื่อเช็คฉบับดังกล่าวถึงกำหนดใช้เงิน โจทก์นำเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าบัญชีของจำเลยปิดแล้ว จำเลยต้องรับผิดชดใช้ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๖ เมษายน๒๕๒๐ ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินถึงวันฟ้องเป็นเงิน๔,๑๒๕ บาท ขอให้จำเลยชำระเงิน ๖๔,๑๒๕ บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่นายและฮะโดยมีมูลหนี้มาจากการเล่นการพนันสลากกินรวบ แต่ไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย นายและฮะปลอมลายมือจำเลยกรอกวันที่ลงในเช็คพิพาทแล้วนำไปเข้าบัญชีโจทก์ ยืมมือโจทก์ให้ฟ้องคดีการโอนเช็คพิพาทมีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉล เช็คพิพาทจึงเป็นเอกสารปลอมและเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การโอนเช็คพิพาทมิได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลจำเลยยกข้อต่อสู้ซึ่งเป็นความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับนายและฮะซึ่งเป็นผู้ทรงคนก่อน มาต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๖๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๒๐ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยก่อนฟ้องเกินกว่า๔,๑๒๕ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่แก้เฉพาะดอกเบี้ยโดยให้จำเลยใช้นับแต่วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๒๐ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายและทำการโดยสุจริต ก็มีอำนาจที่จะจดวันออกเช็คตามที่ถูกต้องแท้จริงลงได้ ไม่ทำให้เช็คพิพาทเป็นเอกสารปลอม และการจดวันออกเช็คในกรณีดังกล่าวก็มิใช่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็คตามความหมายของมาตรา ๑๐๐๗
เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าการโอนเช็คระหว่างนายและฮะกับโจทก์มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล แม้จำเลยจะสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้นายและฮะโดยมีมูลหนี้มาจากการเล่นการพนันสลากกินรวบจำเลยก็จะยกเหตุดังกล่าวซึ่งเป็นความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับนายและฮะซึ่งเป็นผู้ทรงคนก่อนมาเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๙๑๖ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าเช็คพิพาทมีมูลหนี้มาจากการอันมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทต้องรับผิดใช้เงินแก่โจทก์
พิพากษายืน.

Share