คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4755-4757/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

โจทก์ขออายัดเงินของจำเลยและผู้ร้องเพื่อนำมาชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาต่อมาได้มีการจ่ายเงินที่อายัดบางส่วนชำระหนี้ให้โจทก์เงินอายัดที่จ่ายให้โจทก์นั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีร้อยละ3ครึ่งตามตาราง5ข้อ2ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพราะได้มีการจ่ายเงินที่อายัดนั้นแก่เจ้าหนี้แล้วทั้งไม่ได้กำหนดว่าการอายัดตัวเงินคิดค่าธรรมเนียมการบังคับคดีแตกต่างจากการอายัดทรัพย์สินอย่างใดกรณีไม่เข้าตาราง5ข้อ4ที่คิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ1ซึ่งเป็นกรณีมีการถอนอายัดเงินหรือไม่มีการจ่ายเงินที่อายัดแก่เจ้าหนี้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุด จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามยอม โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 1 และยึดที่ดินของผู้ร้องที่ 1 ซึ่งได้นำมาค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อขายทอดตลาดปรากฏว่าทำการขายตลาดทรัพย์ได้เฉพาะที่ดินของผู้ร้องที่ 1 รวม 4 โฉนดไม่เพียงพอชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์จึงยื่นคำร้องขออายัดเงินของจำเลยที่ 1 และผู้ร้องทั้งสองในคดีนี้จากคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 4198/2523ของศาลชั้นต้นเพื่อนำมาชำระหนี้โจทก์ในจำนวนที่ยังขาด ซึ่งได้โอนมาไว้ในคดีนี้แล้ว จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้จ่ายเงินที่อายัดให้โจทก์เป็นเงิน 1,057,022 บาท 47 สตางค์ และคิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 3 ครึ่งของจำนวนเงินที่อายัดและจ่ายให้โจทก์นั้นเป็นการไม่ถูกต้อง โดยจะต้องคิดเพียงร้อยละ 1 ตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะเป็นการอายัดตัวเงินเพื่อนำมาจ่ายให้โจทก์เท่านั้น ไม่มีการขายหรือจำหน่ายเงินจำนวนนี้ต่อไปอีก ขอให้สั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีคืนเงินค่าธรรมเนียมที่คิดเกินไปให้จำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา ในปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ขอให้คิดค่าธรรมเนียมในการอายัดในอัตราร้อยละ 1 และคืนเงินค่าธรรมเนียมในการอายัดที่คิดเกินไปให้แก่จำเลยที่ 1 นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่าปัญหาดังกล่าวตามตาราง 5 ว่าด้วยค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีข้อ 2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติว่าการจ่ายที่ยึดหรืออายัดแก่เจ้าหนี้ให้คิดค่าธรรมเนียมละ 3 ครึ่งของจำนวนเงินที่ยึดหรืออายัด โดยไม่ได้คำนึงถึงลักษณะของงานมากน้อยหรือยุ่งยากในการบังคับคดีรวมทั้งไม่ได้กำหนดไว้ว่าการอายัดตัวเงินคิดค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีแตกต่างจากการอายัดทรัพย์สินแก่อย่างใด เมื่อกฎหมายบัญญัติให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 3 ครึ่ง ของจำนวนเงินที่อายัดโดยชัดแจ้งเช่นนี้ ก็ต้องคิดค่าธรรมเนียมตามจำนวนเงินที่อายัดและจ่ายเงินจำนวนที่อายัดนั้นแก่เจ้าหนี้ โดยจะคิดค่าธรรมเนียมตามตาราง 5 ข้อ 4 ในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่อายัดได้ต่อเมื่อมีการถอนการอายัดเงินนั้นหรือไม่มีการจ่ายเงินที่อายัดนั้นแก่เจ้าหนี้เท่านั้น ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งในเรื่องค่าธรรมเนียมการอายัดเงินมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

Share