แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาการให้สิทธิและการบริการทั้งสองฉบับเป็นสัญญาที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยใช้ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการโรงแรมโดยจำเลยยินยอมจ่ายค่าตอบแทน ดังนั้น นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งซึ่งมีผลผูกพันคู่สัญญาตาม ป.พ.พ. มาตรา 369 ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย จำเลยจึงไม่อาจยกเหตุที่ทรัพย์สินซึ่งซื้อขายชำรุดบกพร่องมาเป็นเหตุปฏิเสธไม่ชำระเงินแก่โจทก์ได้
สำหรับวัตถุประสงค์ของสัญญานั้นปรากฏข้อความในตอนต้นของสัญญาการให้สิทธิและการบริการทั้งสองฉบับว่า จำเลยประสงค์จะได้รับการจัดหา การติดตั้ง การบำรุงรักษา และสิทธิการใช้ระบบบริหารโรงแรมตามที่ระบุในภาคผนวก ก ซึ่งคือระบบซอฟต์แวร์ทั้งสี่ระบบ เมื่อโจทก์ได้จัดหา ติดตั้ง บำรุงรักษา และให้สิทธิจำเลยใช้ระบบซอฟต์แวร์ทั้งสี่ระบบตามสัญญาแล้ว ถือว่าโจทก์ได้ปฏิบัติการชำระหนี้ตรงตามวัตถุประสงค์แห่งสัญญาการให้สิทธิและการบริการทั้งสองฉบับซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทนในส่วนของตนแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระราคาสัญญาให้แก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 758,300.22 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงินจำนวน 681,422.81 บาท นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 400,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2554 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 20,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยไม่โต้แย้งกันในชั้นอุทธรณ์รับฟังได้ว่า โจทก์และจำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยประกอบกิจการโรงแรมชื่อ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป แมนดิสัน สวีท (Golden Tulip Mandison Suites Hotel) เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2554 จำเลยทำสัญญาการให้สิทธิและการบริการกับโจทก์โดยตกลงให้โจทก์เป็นผู้จัดหา ติดตั้ง และอนุญาตให้ใช้สิทธิในซอฟต์แวร์เพื่อใช้ระบบบริหารจัดการโรงแรม (Hotel management system) ซึ่งประกอบด้วย (1) Amadeus PMS Version 7.1 ได้แก่ ระบบส่วนหน้า (Amadeus PMS – Front Office Module) ระบบเชื่อมต่อ (Interface System) การฝึกอบรม การติดตั้ง และการให้ความช่วยเหลือในการใช้ระบบจริง (Training/Installation Service) (2) ระบบสำนักงานส่วนคลัง (Backoffice System) ซึ่งประกอบด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์บัญชีการเงิน (Carmen System) การติดตั้ง การฝึกอบรม และการให้ความช่วยเหลือในวันใช้ระบบจริง (3) ระบบร้านอาหาร (Infrasys Gourmate POS System) ซึ่งประกอบด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ร้านอาหาร (Infrasys Gourmate POS System Software) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ร้านอาหาร (Infrasys Gourmate POS System Hardware) การฝึกอบรม การติดตั้ง และการให้ความช่วยเหลือในวันใช้ระบบจริง จำเลยตกลงชำระเงินให้โจทก์จำนวน 1,374,629 บาท และค่าบริการรายปี (Anual Support) จำนวน 128,400 บาท ตามสำเนาสัญญาการให้สิทธิและการบริการกับภาคผนวกพร้อมคำแปล นอกจากนี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 จำเลยทำสัญญาการใช้สิทธิและการบริการกับโจทก์อีกฉบับหนึ่งโดยตกลงให้โจทก์เป็นผู้จัดหา ติดตั้ง บำรุงรักษา และอนุญาตให้ใช้สิทธิในซอฟต์แวร์เพื่อใช้ระบบบริหารจัดการโรงแรมซึ่งประกอบด้วย (1) เจนเน็กซ์บริหารงานบุคคลชุด 4.2 สำหรับโรงแรมและรีสอร์ต (GenexHRM Series 4.2 for Hotel & Resort) ซึ่งประกอบด้วย เงินเดือนและบันทึกเวลา (HR advanced/Payroll/Time Attendance) ข้อมูล (Database – SQL 2005 Express Version) การฝึกอบรม การติดตั้ง และการให้ความช่วยเหลือในวันใช้ระบบจริง (2) เครื่องแสกนลายนิ้วมือของบุคคลที่สาม (3 rd Party-Finger Scan Machine) ได้แก่ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ รุ่น 007 – ASK 1000 – user) ตัวเปลี่ยนสัญญาระบบเชื่อมต่อ (iLAN – TCP/IPX Converter) การฝึกอบรม การติดตั้ง และการให้ความช่วยเหลือในวันใช้ระบบจริง จำเลยตกลงชำระเงินให้โจทก์จำนวน 295,855 บาท และค่าบริการรายปีจำนวน 28,750 บาท ตามสำเนาสัญญาการให้สิทธิและการบริการกับภาคผนวกพร้อมคำแปล ต่อมาโจทก์ส่งมอบอุปกรณ์ ติดตั้งซอฟต์แวร์ และฝึกอบรมซอฟต์แวร์ทั้งสี่ระบบดังกล่าวให้แก่จำเลย และจำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์แล้วจำนวน 946,836.50 บาท ตามสำเนาใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี และสำเนาเช็ค กำหนดการใช้ระบบซอฟต์แวร์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ต่อมาวันที่ 1 ธันวาคม 2554 จำเลยได้โทรศัพท์ขอให้โจทก์เปิดระบบซอฟต์แวร์ให้จำเลยใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อที่จะนำข้อมูลการเข้าพักของลูกค้า ต่อมาจำเลยหยุดการใช้งานซอฟต์แวร์ของโจทก์แล้วไปใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทโครแมนชี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แทน โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระเงินที่ค้างชำระแล้วแต่จำเลยเพิกเฉย
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยต้องรับผิดชำระเงินให้แก่โจทก์หรือไม่ เพียงใด เห็นว่า สัญญาการให้สิทธิและการบริการทั้งสองฉบับ เป็นสัญญาที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยใช้ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการโรงแรมโดยจำเลยยินยอมจ่ายค่าตอบแทน ดังนั้น นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งซึ่งมีผลผูกพันคู่สัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย จำเลยจึงไม่อาจยกเหตุที่ทรัพย์สินซึ่งซื้อขายชำรุดบกพร่องมาเป็นเหตุปฏิเสธไม่ชำระเงินแก่โจทก์ได้ สำหรับวัตถุประสงค์ของสัญญานั้นปรากฏข้อความในตอนต้นของสัญญาการให้สิทธิและบริการว่า จำเลยประสงค์จะได้รับการจัดหา การติดตั้ง การบำรุงรักษา และสิทธิการใช้ระบบบริหารโรงแรมตามที่ระบุในภาคผนวก ก (Appendix A) ซึ่งคือระบบซอฟต์แวร์ทั้งสี่ระบบ เมื่อโจทก์ได้จัดหา ติดตั้ง บำรุงรักษา และให้สิทธิจำเลยใช้ระบบซอฟต์แวร์ทั้งสี่ระบบตามสัญญาแล้ว ถือว่าโจทก์ได้ปฏิบัติการชำระหนี้ตรงตามวัตถุประสงค์แห่งสัญญาการให้สิทธิและการบริการ ซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทนในส่วนของตนแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องชำระราคาสัญญาซึ่งคือราคาเสนอขายที่ระบุอยู่ตามภาพผนวก ก ให้แก่โจทก์ อุทธรณ์ของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ