คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11115/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีก่อนให้จำเลยทั้งสามส่งมอบรถยนต์ตามสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไขคืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน พร้อมทั้งให้ชำระค่าเสียหายและชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ จำเลยทั้งสามได้ส่งมอบรถยนต์คืนพร้อมชำระค่าเสียหายกับค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีแก่โจทก์ไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อรถยนต์มีสภาพชำรุดและโจทก์นำออกขายทอดตลาดได้ราคาไม่ครบถ้วนตามราคารถยนต์ที่จำเลยทั้งสามต้องรับผิดชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษา โจทก์ย่อมชอบที่จะฟ้องบังคับให้จำเลยทั้งสามรับผิดชดใช้ราคารถยนต์ส่วนที่ยังขาดจำนวนอยู่ได้ เนื่องจากเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากศาลมีคำพิพากษาในคดีก่อนไปแล้ว ทั้งมิใช่กรณีที่จะไปว่ากล่าวในชั้นบังคับคดีในคดีก่อนได้ เนื่องจากการบังคับคดีจำต้องอาศัยคำพิพากษาที่วินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในมูลหนี้ใดบ้าง กรณีจึงไม่อาจนำมูลหนี้ที่เกิดขึ้นใหม่ภายหลังศาลมีคำพิพากษาไปบังคับคดีเอากับจำเลยทั้งสามในคดีดังกล่าว ดังนั้นคำพิพากษาในคดีนี้จึงเป็นการกำหนดค่าเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากมูลหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนและเกิดขึ้นภายหลังศาลในคดีก่อนพิพากษาไปแล้ว หาใช่ค่าเสียหายที่กำหนดซ้ำซ้อนกันแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 201,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 161,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 26 เมษายน 2553) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสามฎีกา โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภควินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังว่า เดิมจำเลยที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไขโดยซื้อรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน กข – 7081 สุรินทร์ จากโจทก์ในราคา 608,400 บาท ตกลงผ่อนชำระราคารถยนต์ 72 งวด งวดละ 8,450 บาท โดยมีจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม แต่จำเลยที่ 1 ชำระราคารถยนต์เพียง 19 งวด แล้วผิดนัดไม่ชำระ โจทก์บอกเลิกสัญญาและฟ้องจำเลยทั้งสามต่อศาลจังหวัดสุรินทร์ ขอให้ส่งมอบรถยนต์คืนหรือใช้ราคารถยนต์เป็นเงิน 447,850 บาท ศาลจังหวัดสุรินทร์พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันส่งมอบรถยนต์พิพาทคืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 340,000 บาท และให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายกับค่าเสียหายนับถัดจากวันฟ้องพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 3 นำรถยนต์พิพาทไปวางทรัพย์ที่สำนักงานวางทรัพย์เพื่อคืนแก่โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 ได้นำเงินไปชำระค่าเสียหาย (ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์) ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ 133,954.45 บาท และแจ้งการวางทรัพย์แก่โจทก์แล้ว จากนั้นโจทก์ได้รับรถยนต์พิพาทคืนจากสำนักงานวางทรัพย์และนำออกขายทอดตลาดได้เงิน 138,600 บาท จึงฟ้องบังคับจำเลยทั้งสามให้ชำระค่าขาดราคารถยนต์เป็นเงิน 201,400 บาท แต่จำเลยทั้งสามปฏิเสธความรับผิด
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสามว่า การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นการพิพากษาให้ชำระค่าเสียหายซ้ำซ้อนในมูลหนี้เดียวกันหรือไม่ เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังเป็นยุติว่า ภายหลังศาลจังหวัดสุรินทร์พิพากษาให้จำเลยทั้งสามส่งมอบรถยนต์ตามสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไขคืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 340,000 บาท พร้อมทั้งให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์และชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ จำเลยทั้งสามได้ส่งมอบรถยนต์คืนแก่โจทก์และได้ชำระค่าเสียหายกับค่าฤชาธรรมเนียมในการดำเนินคดีแก่โจทก์ไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อรถยนต์ที่จำเลยทั้งสามส่งมอบคืนโจทก์มีสภาพชำรุดและโจทก์นำออกขายทอดตลาดได้ราคาเพียง 138,600 บาท ไม่ครบถ้วนตามราคารถยนต์ที่จำเลยทั้งสามต้องรับผิดชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดสุรินทร์ โจทก์ย่อมชอบที่จะฟ้องบังคับให้จำเลยทั้งสามรับผิดชดใช้ราคารถยนต์ส่วนที่ยังขาดจำนวนอยู่ได้ เนื่องจากเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากศาลจังหวัดสุรินทร์มีคำพิพากษาในคดีก่อนไปแล้ว ทั้งมิใช่กรณีที่จะไปว่ากล่าวชั้นบังคับคดีในคดีก่อนได้ เนื่องจากการบังคับคดีในคดีก่อน จำต้องอาศัยคำพิพากษาที่วินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในมูลหนี้ใดบ้าง กรณีจึงไม่อาจนำมูลหนี้ที่เกิดขึ้นใหม่ภายหลังศาลมีคำพิพากษาไปบังคับคดีเอากับจำเลยทั้งสามในคดีดังกล่าว ดังนั้น คำพิพากษาในคดีนี้จึงเป็นการกำหนดค่าเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากมูลหนี้ตามคำพิพากษาคดีก่อนและเกิดขึ้นภายหลังจากศาลในคดีก่อนพิพากษาไปแล้ว หาใช่ค่าเสียหายที่กำหนดซ้ำซ้อนกันแต่อย่างใด คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share