แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะทราบว่าโจทก์ประกอบกิจการซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายแก่ลูกค้าของโจทก์ต่อไปก็ตาม แต่ก็ไม่แน่ว่าโจทก์จะตกลงขายสินค้าแก่ลูกค้าไว้ก่อน หรือมีข้อผูกพันที่จะต้องชำระค่าปรับแก่ลูกค้าของโจทก์แล้วหรือไม่ การที่จำเลยไม่ส่งสินค้าแก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขาย จนเป็นเหตุให้โจทก์ต้องชำระค่าปรับแก่ลูกค้าของโจทก์ จึงมิใช่ค่าเสียหายที่คาดหมายไว้ว่าจะต้องเกิดขึ้นเสมอไปอันถือได้ว่าเป็นค่าเสียหายในพฤติการณ์พิเศษซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดต่อเมื่อได้คาดหมายหรือควรคาดหมายถึงพฤติการณ์เช่นนั้นก่อนแล้ว ทั้งตามพยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ทราบหรือคาดคิดหรือควรคาดคิดมาก่อนแล้วว่าหากจำเลยไม่ส่งสินค้าให้โจทก์แล้ว โจทก์ต้องเสียค่าปรับแก่ลูกค้า จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายส่วนนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 222 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 438,222.60 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1,220,780.22 ปอนด์อียิปต์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 410,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ 1,142,159 ปอนด์อียิปต์ นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 21,869 ปอนด์อียิปต์ และ 410,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 17 มีนาคม 2552) ต้องไม่เกิน 78,621.22 ปอนด์อียิปต์ และ 28,222.60 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ หากจำเลยจะชำระเป็นเงินไทยให้คิดอัตราแลกเปลี่ยน ณ สถานที่และเวลาที่ใช้เงิน กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังได้เป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2551 จำเลยออกใบเสนอราคาสินค้าสารโซเดียม ไตร โพลี ฟอสเฟต 1,000 เมตริกตัน ราคาเมตริกตันละ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงิน 1,300,000 ดอลลาร์สหรัฐ แก่โจทก์ โจทก์ตกลงสั่งซื้อสินค้าจากจำเลยตามใบเสนอราคาดังกล่าว กำหนดส่งสินค้า 500 เมตริกตันแรก ในกลางเดือนเมษายน 2551 และอีก 500 เมตริกตัน ในต้นเดือนพฤษภาคม 2551 และต่อมามีการตกลงแก้ไขกำหนดส่งสินค้าเป็นส่ง 1,000 เมตริกตัน ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 แต่จำเลยปฏิบัติผิดสัญญาไม่ส่งมอบสินค้าแก่โจทก์ตามกำหนดเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย โดยโจทก์ตกลงขายสินค้าแก่ลูกค้ารายหนึ่งไว้ในราคาเมตริกตันละ 1,515.14 ดอลลาร์สหรัฐ
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายในส่วนที่โจทก์ต้องขาดกำไรอันควรได้จากการขายสินค้าที่สั่งซื้อจากจำเลย หากจำเลยไม่ปฏิบัติผิดสัญญาซื้อขายเพียงเฉพาะกรณีที่โจทก์ตกลงขายสินค้าแก่ลูกค้ารายบริษัทอาฟฟิโก เทรดดิ้ง ฟอร์ ฟรี โซน 500 เมตริกตัน ในราคาเมตริกตันละ 1,515.14 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าราคาที่ตกลงซื้อจากจำเลยไว้ในราคาเมตริกตันละ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นค่าขาดกำไรเมตริกตันละ 215.14 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินรวม 107,570 ดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายส่วนนี้โดยระบุชัดว่าเป็นค่าขาดกำไร อันหมายถึงค่าขาดประโยชน์ที่โจทก์ควรได้รับหากจำเลยไม่ผิดสัญญา จึงไม่ใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากการที่โจทก์ต้องซื้อสินค้าใหม่แพงขึ้น ดังนี้ จึงต้องพิจารณาความเสียหายตามข้อเท็จจริงว่าโจทก์ควรขายสินค้าที่สั่งซื้อจากจำเลยได้เท่าใด สูงกว่าราคาที่ตกลงซื้อจากจำเลยเพียงใดเป็นสำคัญ ซึ่งตามพยานหลักฐานของโจทก์ปรากฏเพียงว่าโจทก์ตกลงขายสินค้าแก่บริษัทอาฟิโก เทรดดิ้ง ฟอร์ ฟรี โซน ในราคาที่คิดต่อเมตริกตันได้ เมตริกตันละ 1,515.14 ดอลลาร์สหรัฐ ดังกล่าวแล้วเท่านั้น จึงน่าจะพอแสดงให้เห็นได้ เพียงว่าโจทก์มีโอกาสขายสินค้าที่สั่งซื้อจากจำเลยได้ไปในราคาดังกล่าว เท่านั้น ดังนี้จึงเชื่อว่าโจทก์ขาดกำไรจากสินค้าที่สั่งซื้อจากจำเลยอีก 500 เมตริกตัน เป็นจำนวนเท่า ๆ กัน กับที่ขาดกำไรจากการที่โจทก์ตกลงขายสินค้า 500 เมตริกตันแรก ให้แก่บริษัทอาฟิโก เทรดดิ้งฟอร์ ฟรี โซน เป็นเงิน 107,570 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นค่าขาดกำไรสำหรับสินค้า 1,000 เมตริกตัน จำนวน 215,140 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน 410,000 ดอลลาร์สหรัฐ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินในส่วนค่าขาดกำไรแก่โจทก์จำนวน 215,140 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินที่ต้องชำระเป็นค่าใช้จ่ายในการขอให้ธนาคารออกเลตเตอร์ออฟเครดิต จำนวน 21,869 ปอนด์อียิปต์ รวมทั้งดอกเบี้ยของเงินต้นทั้งหมดที่ต้องชำระ การคิดอัตราแลกเปลี่ยนหากชำระเป็นเงินไทยและค่าฤชาธรรมเนียมในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลดังกล่าว ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับทั้งสองฝ่าย