คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11092/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อาวุธปืนของกลางสามารถใช้ยิงได้กับกระสุนปืนเล็กกลขนาด .223 (5.56 มิลลิเมตร) แสดงให้เห็นว่าอาวุธปืนของกลางถูกดัดแปลงแก้ไขจนสามารถใช้ยิงกับกระสุนปืนเล็กกลของกลางได้ เจตนาในการมีอาวุธปืนของกลางและกระสุนปืนเล็กกลของกลางของจำเลย จึงมีความประสงค์เดียวกันเพื่อที่จะใช้กระสุนปืนเล็กกลของกลางเข้ากับอาวุธปืนของกลาง ทั้งอาวุธปืนและกระสุนปืนมีไว้ในครอบครองด้วยกัน โดยกระสุนปืนนั้นเป็นกระสุนปืนที่ใช้ยิงได้กับอาวุธปืน ซึ่งถือว่าเป็นกรรมเดียว เช่นนี้ การกระทำของจำเลยในการมีอาวุธปืนของกลางและกระสุนปืนเล็กกลของกลางจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ,55, 72, 72 ทวิ, 78 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 376, 91, 32, 33 ริบอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 376 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน และฐานยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง จำคุก 10 วัน จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 9 เดือน 5 วัน ริบอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนของกลาง
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่ง และให้ลงโทษฐานมีเครื่องกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง จำคุก 2 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้นเป็นจำคุก 1 ปี 9 เดือน 5 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาของจำเลยในความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลชั้นต้นไม่ได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานนี้และลงโทษมา จึงเป็นกรณีที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษากลับกัน จำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามบทบัญญัติใด ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน และมีภาระที่ต้องดูแลบิดามารดาดังที่อ้างมาในฎีกาก็ตามแต่ตามรายงานการสืบเสาะและพินิจของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคามที่จำเลยไม่คัดค้าน ปรากฏว่าจำเลยได้อาวุธปืนของกลางมาโดยการซื้อในระหว่างเป็นนักศึกษา ทั้งยังขวนขวายหากระสุนปืนของกลางมาใช้กับอาวุธปืนของกลางอีกด้วยผิดปกติวิสัยของนักเรียนนักศึกษาที่ต้องทุ่มเทความสนใจไปกับการศึกษาเล่าเรียนเพื่ออนาคตที่ก้าวหน้าต่อไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายอันจะบั่นทอนอนาคตของตนลง ใช่แต่เพียงนี้ลำพังแต่เพียงมีปากเสียงกับพี่เขย จำเลยถึงกับไปเอาอาวุธปืนของกลางมาจากหอพักไปใช้ยิงข่มขู่ที่หน้าร้านค้า เป็นการประพฤติตนดุจนักเลงอันธพาล คดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลย ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบานั้นก็ปรากฏว่าโทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วางมาก่อนที่จะลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 นั้น เป็นอัตราโทษขั้นต่ำสุดอยู่แล้ว ศาลฎีกาไม่อาจวางโทษให้เบาไปกว่านี้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 กำหนดโทษมาและไม่รอการลงโทษนั้นชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อย่างไรก็ดี อาวุธปืนของกลางสามารถใช้ยิงได้กับกระสุนปืนเล็กกลขนาด .223 (5.56 มิลลิเมตร) ดังที่โจทก์กล่าวบรรยายมาในฟ้องข้อ 1 (ง) และกล่าวมาในข้อ 2 ว่า เจ้าพนักงานยึดได้ปลอกกระสุนขนาด .22 (ที่ถูก .223) (5.56 มิลลิเมตร) จำนวน 1 ปลอก ตามฟ้องข้อ 1 (ข) ซึ่งก็คือปลอกกระสุนของกระสุนปืนเล็กกลอันเป็นเครื่องกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าอาวุธปืนของกลางถูกดัดแปลงแก้ไขจนสามารถใช้ยิงกับกระสุนปืนเล็กกลของกลางได้ เจตนาในการมีอาวุธปืนของกลางและกระสุนปืนเล็กกลของกลางของจำเลยจึงมีความประสงค์เดียวกันเพื่อที่จะใช้กระสุนปืนเล็กกลของกลางเข้ากับอาวุธปืนของกลางไม่ต่างจากกรณีการมีอาวุธปืนและกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ทั้งอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองด้วยกัน โดยกระสุนปืนนั้นเป็นกระสุนปืนที่ใช้ยิงได้กับอาวุธปืน ซึ่งถือว่าเป็นกรรมเดียว เช่นนี้ การกระทำของจำเลยในการมีอาวุธปืนของกลางและกระสุนปืนเล็กกลของกลางจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทมิใช่เป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนกระทงหนึ่ง และฐานมีกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้อีกกระทงหนึ่งดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษามา ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสองประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่งและมาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานมีเครื่องกระสุนปืนชนิดที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ อันเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 2 ปี เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี เมื่อรวมกับโทษจำคุกในความผิดฐานพาอาวุธปืนและยิงปืนโดยใช่เหตุแล้ว รวมเป็นจำคุก 1 ปี 3 เดือน 5 วัน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4

Share