คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7592/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 65 วรรคหนึ่ง มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ดังนั้น เมื่อลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งจะต้องเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 53 เสียก่อน เมื่อคำนวณแล้วจะเหลือโทษจำคุก 25 ปี และเมื่อลดโทษให้อีกหนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 78 แล้ว คงเหลือโทษจำคุก 16 ปี 8 เดือน หาใช่ 33 ปี 4 เดือน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 4, 11, 12, 62, 81 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 91 และริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 65 วรรคหนึ่ง, 67 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11, 62 วรรคหนึ่ง, 81 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานนำยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 3,000,000 บาท ฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 2 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ในความผิดทั้งสามกระทงกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 11 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงให้จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 3,000,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง
โจทก์และจำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ภาค 4 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรคสอง
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ขณะกระทำความผิดจำเลยอายุ 18 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ประกอบมาตรา 53 ฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 50 ปี และปรับ 600,000 บาท ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำคุก 1 เดือน ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 รวม 2 กระทง จำคุกรวม 1 เดือน และความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางนำสืบของจำเลยและคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน และปรับ 400,000 บาท เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงจำคุก 33 ปี 5 เดือน และปรับ 400,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยให้กักขังจำเลยแทนค่าปรับเป็นระยะเวลา 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้เถียงกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 7 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 0.265 กรัม ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมยึดเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นของกลาง คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกว่า จำเลยกระทำความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรหรือไม่ โจทก์มีดาบตำรวจเผด็จชัย เบิกความ เห็นว่า จากคำเบิกความของดาบตำรวจเผด็จชัย ครั้งแรกที่สายลับมารายงานให้ทราบนั้นเป็นเพียงการให้ข้อมูลว่ามีการลักลอบนำเมทแอมเฟตามีนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเข้ามาจำหน่ายในจังหวัดมุกดาหาร แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าใครจะเป็นผู้นำเข้ามา และจะนำเข้ามาเมื่อใด ที่ใด เช่นนี้ย่อมไปอาจมีการวางแผนจับกุมคนร้ายได้ ต่อเมื่อมีข้อมูลโดยละเอียด ในวันรุ่งขึ้นดาบตำรวจเผด็จชัยจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและร่วมกันวางแผนจับกุม จึงไม่เป็นข้อพิรุธแต่อย่างใด ส่วนที่โจทก์มิได้นำสืบให้ปรากฏว่าสายลับเป็นใครก็เห็นว่าเป็นกรณีที่ทางราชการต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่ทางราชการแต่อย่างไรก็ตามเมื่อโจทก์มีดาบตำรวจเผด็จชัยซึ่งซุ่มดูเห็นจำเลยตั้งแต่ขึ้นจากเรือที่ข้ามฟากแม่น้ำโขงมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจนกระทั่งถูกจับกุมมาเบิกความยืนยันพฤติการณ์ของจำเลยแล้ว การที่โจทก์มิได้นำสืบว่าสายลับเป็นใครหรือมิได้นำสายลับมาเบิกความยืนยันความข้อนี้จึงไม่ทำให้พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักลดน้อยลง พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีน้ำหนักรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยนำเมทแอมเฟตามีนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักร ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยในความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น และเมื่อความผิดดังกล่าวกับความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งต้องลงโทษฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 แล้ว จึงไม่จำต้องกำหนดโทษจำเลยในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองตามที่จำเลยฎีกาขอมาอีก
ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการต่อมาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 กำหนดโทษจำเลยในความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลังลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และลดโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ถูกต้องหรือไม่ เห็นว่า ความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 65 วรรคหนึ่ง มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ดังนั้น เมื่อลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งจะต้องเปลี่ยนโทษจำคุกชีวิตเป็นโทษจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 53 เสียก่อน เมื่อคำนวณแล้วจะเหลือโทษจำคุก 25 ปี และเมื่อลดโทษให้อีกหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงเหลือโทษจำคุก 16 ปี 8 เดือน หาใช่ 33 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานนำเมทแอมเฟตามีนเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ประกอบมาตรา 53 แล้ว จำคุก 25 ปี ลดโทษให้อีกหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 16 ปี 8 เดือน เมื่อรวมกับโทษปรับและโทษทุกกระทงตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 แล้ว คงจำคุก 16 ปี 9 เดือน และปรับ 400,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4

Share