แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2548 จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ เนื่องจากยื่นเกินกำหนดที่ศาลอนุญาต คือวันที่ 19 ธันวาคม 2548 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 ภายใน 15 วันนับแต่วันที่มีคำสั่ง วันที่ 23 ธันวาคม 2548 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและให้รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย โดยไม่ต้องนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและไม่ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าจำเลยมิได้นำเงินมาชำระตามตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายในเวลาที่กำหนด อันเป็นการไม่ปฏิบัติตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ยกคำร้อง และเมื่อศาลยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยแล้ว กรณีจึงไม่ต้องสั่งอุทธรณ์คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยฉบับลงวันที่ 23 ธันวาคม 2548 อีก ดังนี้จึงมีผลเป็นการที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 236 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อยและใช้การได้ดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 159,000 บาท ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์ 30,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 11 มิถุนายน 2547) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายให้โจทก์ต่อไปอีกเดือนละ 2,200 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบรถยนต์คืนหรือใช้ราคาแทนแต่ไม่เกิน 7 เดือน กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 1,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลได้อนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2548 จำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์วันนี้ (14 ธันวาคม 2548) ซึ่งพ้นกำหนดวันที่ศาลอนุญาต จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดแก่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2548 ว่ากรณีเป็นการอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ให้ผู้อุทธรณ์ (จำเลยที่ 2) นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ แต่จำเลยที่ 2 มิได้วางเงินภายในกำหนด
จำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2548 ขอให้ศาลอุทธรณ์กลับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งให้จำเลยที่ 2 วางค่าธรรมเนียมทั้งปวงและจำนวนเงินที่โจทก์ชนะคดี และให้รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 โดยไม่ต้องวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงและจำนวนเงินที่โจทก์ชนะคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งต่อไป
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2 มิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายในเวลาที่กำหนด อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ และเมื่อศาลยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 แล้ว กรณีจึงไม่จำต้องสั่งอุทธรณ์คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ฉบับลงวันที่ 23 ธันวาคม 2548 อีก
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “วันที่ 14 ธันวาคม 2548 จำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เนื่องจากยื่นเกินกำหนดที่ศาลอนุญาต วันที่ 19 ธันวาคม 2548 จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยที่ 2 นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ภายใน 15 วัน นับแต่วันมีคำสั่ง วันที่ 23 ธันวาคม 2548 จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและให้รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 โดยไม่ต้องนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและไม่ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2 มิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายในเวลาที่กำหนด อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ และเมื่อศาลยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 แล้ว กรณีจึงไม่ต้องสั่งอุทธรณ์คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ฉบับลงวันที่ 23 ธันวาคม 2548 อีก ดังนี้ จึงมีผลเป็นการที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 2 ยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 2 มาเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 2 ให้คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดในชั้นฎีกาแก่จำเลยที่ 2 ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ