คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2969/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างขับรถยนต์ ถือได้ว่าอยู่ในฐานะเป็น ผู้ประจำรถตามความในมาตรา 92(1) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ.2522 จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามความหมายของมาตรา 23 แม้รถที่จำเลยขับจะมิได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งจากนายทะเบียนจำเลยก็ไม่มีความผิด
ตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522รถที่ใช้ในการขนส่งต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีตามมาตรา 85แล้ว หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกลงโทษตามมาตรา 148รถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุการกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ตามบทกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามมาตรา 148

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางจากนายทะเบียน ได้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางโดยนำรถยนต์บรรทุกดินไปตามถนนสายหล่มสักสระบุรี และจำเลยได้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาใช้โดยมิได้ผ่านการตรวจสภาพ มิได้จดทะเบียนและเสียภาษีประจำปี พ.ศ. 2523 ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23, 71, 85, 126, 148

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษข้อหาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางโดยไม่รับอนุญาตและข้อหาใช้รถไม่เสียภาษีประจำปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยมิได้อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ทั้งไม่มีหน้าที่ในการชำระค่าภาษีรถยนต์ อันจะเป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ในประเด็นข้อแรกว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่งอันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23 หรือไม่ ตามมาตรา 23 ได้บัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบการขนส่งประจำทางการขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก หรือการขนส่งส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน เห็นว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่นำเข้าร่วมในการประกอบการขนส่งซึ่งนางจงจิตร นาคสุทธิ เป็นผู้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคล จำเลยเป็นเพียงลูกจ้างขับรถคันดังกล่าว ถือได้ว่าอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถตามความในมาตรา 92(1) ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามความหมายของมาตรา 23 จึงไม่มีความผิด ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในข้อนี้ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

ส่วนปัญหาข้อที่ว่า จำเลยนำรถที่ใช้ในการขนส่งที่ไม่ได้เสียภาษีรถประจำปีไปใช้จะมีความผิดหรือไม่ นั้น เห็นว่า รถที่ใช้ในการขนส่ง นอกจากรถนั้นจะต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงกับได้จดทะเบียนตามมาตรา 73 แล้ว ต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีถูกต้องตามมาตรา 85 ด้วย จึงจะนำไปใช้ได้ ดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 71 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 148 เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้แล้วว่า รถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามบทกฎหมายดังกล่าวที่ใช้บังคับและห้ามไว้การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดในข้อหาฐานนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ว่าไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71, 148

Share