คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10959/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยให้ซ่อมและเปลี่ยนเครื่องยนต์รถยนต์รวมทั้งให้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนหมายเลขเครื่องยนต์ จำเลยซื้อเครื่องยนต์จากบริษัท จ. โดยบริษัท จ. ออกเอกสารใบส่งของ/บิลเงินสด ใบกำกับภาษี กับหนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์ ระบุชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ซื้อ จำเลยนำเอกสารดังกล่าวไปให้บริษัท จ. แก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ซื้อเป็น ส. โดยผู้เสียหายไม่ยินยอมทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายแม้ พ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท จ. และเป็นผู้ทำเอกสารจะเป็นผู้แก้ไข แต่เมื่อการแก้ไขเกิดจากการแจ้งของจำเลยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เสียหาย ย่อมไม่มีอำนาจ เป็นการปลอมเอกสารโดยถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนี้ด้วยการใช้ พ. เป็นเครื่องมือ
ใบกำกับภาษีเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ขายได้เรียกเก็บภาษีจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ซื้อเครื่องยนต์แล้ว บริษัท พ. ไม่มีสิทธิเรียกเก็บภาษีจากผู้เสียหายอีกจึงเป็นหลักฐานแห่งการระงับไปซึ่งสิทธิ เป็นเอกสารสิทธิ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 188, 264, 265, 268
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188, 265 และ 268 (ที่ถูก มาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265) การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยในความผิดเกี่ยวกับเอกสารซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ให้ลงโทษฐานผู้ใช้เอกสารสิทธิปลอมตามมาตรา 268 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 265 (ที่ถูก ตามมาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 265 ตามมาตรา 268 วรรคสอง) ให้จำคุก 2 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้พิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยไว้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายว่า การแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ซื้อเครื่องยนต์ในใบส่งของ/บิลเงินสด และใบกำกับภาษี กับหนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์เป็นการปลอมเอกสารหรือไม่ และเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารสิทธิหรือไม่ ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงมาว่า นายวสันต์ ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยให้ซ่อมและเปลี่ยนเครื่องยนต์รถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน จ – 2677 นนทบุรี รวมทั้งให้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนหมายเลขเครื่องยนต์ จำเลยซื้อเครื่องยนต์เลขที่ เอเอส 167122 เอ็กซ์ จากบริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มาเปลี่ยนให้ผู้เสียหาย โดยบริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ทำใบส่งของ/บิลเงินสด และใบกำกับภาษี กับหนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์ระบุชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ซื้อเครื่องยนต์มอบให้แก่จำเลย ต่อมาจำเลยนำใบส่งของ/บิลเงินสด และใบกำกับภาษีกับหนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์ดังกล่าวซึ่งเป็นของผู้เสียหายไปให้บริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด แก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ซื้อเครื่องยนต์จากผู้เสียหายเป็นชื่อนายสามารถ โดยไม่มีอำนาจ แล้วมอบเอกสารให้นายพิสิษฐ์ นำไปใช้ประกอบในการจดทะเบียนเปลี่ยนเครื่องยนต์รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน 6 ฐ – 7705 กรุงเทพมหานคร ของนายสามารถ ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเพราะไม่สามารถจดทะเบียนเปลี่ยนเครื่องยนต์รถยนต์เก๋งของผู้เสียหายได้ เห็นว่า เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงมาว่า หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์กับใบส่งของ/บิลเงินสด และใบกำกับภาษีที่ระบุชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ซื้อเครื่องยนต์เป็นเอกสารของผู้เสียหายและการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ซื้อเครื่องยนต์จากผู้เสียหายเป็นชื่อนายสามารถ ในเอกสารกระทำโดยไม่มีอำนาจ ดังนั้น แม้นายพิพัฒน์ จะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และเป็นผู้ทำเอกสาร แต่เมื่อการแก้ไขเกิดจากการแจ้งของจำเลยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เสียหาย ย่อมไม่มีอำนาจที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ซื้อเครื่องยนต์ในเอกสารของผู้เสียหายให้ผิดไปจากความจริงได้ การแก้ไขเอกสารของผู้อื่นให้ผิดไปจากความจริงโดยไม่มีอำนาจ เป็นการปลอมเอกสาร โดยถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนี้ด้วยการใช้นายพิพัฒน์เป็นเครื่องมือ ส่วนเอกสารที่ปลอมนั้นเป็นใบส่งของ/บิลเงินสด และใบกำกับภาษีที่บริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ออกให้แก่ผู้เสียหาย เมื่อเอกสารดังกล่าวเป็นใบกำกับภาษีย่อมเป็นหลักฐานแสดงว่าบริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ขายได้เรียกเก็บภาษีจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ซื้อเครื่องยนต์แล้ว บริษัทเจริญพรเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ไม่มีสิทธิเรียกเก็บภาษีจากผู้เสียหายอีก ดังนั้น เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหลักฐานแห่งการระงับไปซึ่งสิทธิ เป็นเอกสารสิทธิ และกรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่าหนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์เป็นเอกสารสิทธิหรือไม่เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share