คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7407/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีสัญชาติเยอรมัน แต่โจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่าประเทศที่โจทก์ถือสัญชาติเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี หรือขณะสร้างสรรค์งานโจทก์อยู่ในราชอาณาจักรหรือประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วยตลอดระยะเวลาหรือเป็นส่วนใหญ่ในการสร้างสรรค์งาน หรืองานของโจทก์ได้มีการโฆษณางานในราชอาณาจักรหรือประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีแล้ว อันเป็นเงื่อนไขการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 8 คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 31, 65, 69, 70, 75, 76 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 และให้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยทั้งสองพิมพ์ ทำซ้ำ นำออกโฆษณา ขาย เสนอขาย หนังสือ “ภาษาไทยง่ายสำหรับคนเยอรมัน” อันเป็นลิขสิทธิ์ของโจทก์ ให้จำเลยทั้งสองส่งมอบแผ่นซีดีหรือแผ่นดิสก์ต้นฉบับหนังสือแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระราคาแทนแก่โจทก์ สั่งให้ของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตกเป็นของโจทก์ กับจ่ายเงินค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่ง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูลเฉพาะความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 27 ประกอบมาตรา 69 ให้ประทับฟ้องในข้อหาดังกล่าว ส่วนข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 ให้ยกฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ต่อมาจำเลยทั้งสองขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องโจทก์
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 27 (1), 69 วรรคสอง, 31 (1), 70 วรรคสอง รวม 2 กระทง ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าตามมาตรา 27 (1), 69 วรรคสอง ปรับจำเลยทั้งสองคนละ 100,000 บาท ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าตามมาตรา 31 (1), 70 วรรคสอง ปรับจำเลยทั้งสองคนละ 50,000 บาท รวมปรับจำเลยทั้งสองคนละ 150,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับคนละ 75,000 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 หากจำเลยที่ 2 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ให้หนังสือ “ภาษาไทยง่ายสำหรับคนเยอรมัน” ของกลางที่ได้ทำขึ้นอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามคำฟ้องและยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยทั้งสองตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์และให้จ่ายเงินค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาแก่เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่ง คำขออื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ขาดองค์ประกอบความผิดหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) บัญญัติว่า ฟ้องจะต้องมีการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี โดยในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นด้วยการทำซ้ำหรือดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานวรรณกรรมตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 27 โจทก์ต้องบรรยายฟ้องให้ครบองค์ประกอบความผิดในส่วนของการกระทำ คือ การทำซ้ำหรือดัดแปลง หรือการเผยแพร่ต่อสาธารณชน และต้องบรรยายให้ปรากฏด้วยว่างานของโจทก์ เป็นงานที่กฎหมายรับรองว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ และการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์เป็นไปตามวิธีการและเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ทั้งขณะเกิดเหตุงานดังกล่าวยังอยู่ในอายุแห่งการคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น หลักเกณฑ์หรือองค์ประกอบที่ทำให้งานสร้างสรรค์เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 เป็นสาระสำคัญที่โจทก์ต้องบรรยายให้ครบถ้วน ข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง โจทก์มีสัญชาติเยอรมัน แต่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าประเทศที่โจทก์ถือสัญชาติเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีหรือไม่ หรือในขณะที่โจทก์สร้างสรรค์งานวรรณกรรมหนังสือ “ภาษาไทยง่ายสำหรับคนเยอรมัน” ขึ้นนั้น โจทก์อยู่ในราชอาณาจักรหรืออยู่ในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย ตลอดระยะเวลาหรือเป็นส่วนใหญ่ในการสร้างสรรค์งานหรือไม่ งานสร้างสรรค์ของโจทก์ตามฟ้องมีการโฆษณางานในราชอาณาจักรหรือในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีหรือไม่ อันเป็นเงื่อนไขการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 8 คำฟ้องของโจทก์เป็นคำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิด อันเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยได้ เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share