แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
แม้คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่ให้ยกคำร้องของลูกหนี้ที่ 2 ที่ขอให้พิจารณาคดีใหม่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายฯ มาตรา 24 วรรคสอง แต่เมื่อพิจารณาคำร้องของลูกหนี้ที่ 2 ดังกล่าวปรากฏว่าลูกหนี้ที่ 2 ได้บรรยายกล่าวอ้างในคำร้องแล้วว่า ลูกหนี้ที่ 2 ไม่เคยได้รับหมายเรียกสำเนาคำร้องในคดีนี้ เนื่องจากลูกหนี้ที่ 2 มีภูมิลำเนาอยู่อาคารเลขที่ 120/22 มิใช่อาคารเลขที่ 120 ตามที่ผู้ร้องนำส่งหมายเรียกสำเนาคำร้อง และลูกหนี้ให้ความร่วมมือกับผู้ร้องในการปรับโครงสร้างหนี้มาโดยตลอด กรณีไม่ต้องด้วย พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยฯ มาตรา 58 วรรคท้าย จึงเป็นคำร้องที่กล่าวอ้างโดยชัดแจ้งซึ่งเหตุที่ลูกหนี้ที่ 2 ขาดนัดพิจารณา และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลล้มละลายกลางแล้ว ลูกหนี้ที่ 2 มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ที่ศาลล้มละลายกลางสั่งยกคำร้องของลูกหนี้ที่ 2 โดยมิได้ทำการไต่สวนก่อนจึงเป็นการไม่ถูกต้อง กรณีมีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายฯ มาตรา 26 วรรคสี่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ทั้งสี่เด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ลูกหนี้ที่ 1 และที่ 2 ไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ส่วนลูกหนี้ที่ 3 และที่ 4 ให้การต่อสู้คดี ศาลล้มละลายกลางไต่สวนแล้วมีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2549 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ที่ 2 เด็ดขาดตามพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 58 วรรคท้าย และให้ลูกหนี้ที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้อง โดยหักจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 2 เฉพาะค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร และให้ยกคำร้องสำหรับลูกหนี้ที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างผู้ร้องกับลูกหนี้ที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 ให้เป็นพับ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550 ลูกหนี้ที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลล้มละลายกลางตรวจคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ลูกหนี้ที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “อุทธรณ์ของลูกหนี้ที่ 2 ที่ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของลูกหนี้ที่ 2 โดยมิได้ทำการไต่สวนก่อนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น เห็นว่า แม้คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่ให้ยกคำร้องของลูกหนี้ที่ 2 ที่ขอให้พิจารณาคดีใหม่ดังกล่าวต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ.2542 มาตรา 24 วรรคสอง แต่เมื่อพิจารณาคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ฉบับลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550 ของลูกหนี้ที่ 2 ปรากฏว่า ลูกหนี้ที่ 2 ได้บรรยายกล่าวอ้างในคำร้องแล้วว่า ลูกหนี้ที่ 2 ไม่เคยได้รับหมายเรียกสำเนาคำร้องในคดีนี้เนื่องจากลูกหนี้ที่ 2 มีภูมิลำเนาอยู่อาคารเลขที่ 120/22 มิใช่อาคารเลขที่ 120 ตามที่ผู้ร้องนำส่งหมายเรียกสำเนาคำร้อง และตั้งแต่ปี 2546 ลูกหนี้ที่ 2 ให้ความร่วมมือกับผู้ร้องในการปรับโครงสร้างหนี้มาโดยตลอด กรณีไม่ต้องด้วยพระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 มาตรา 58 วรรคท้าย จึงเป็นคำร้องที่กล่าวอ้างโดยชัดแจ้งซึ่งเหตุที่ลูกหนี้ที่ 2 ขาดนัดพิจารณา และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลล้มละลายกลางแล้ว ทั้งหากข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องของลูกหนี้ที่ 2 ย่อมถือไม่ได้ว่ามีการส่งหมายเรียกสำเนาคำร้องให้ลูกหนี้ที่ 2 โดยชอบ ลูกหนี้ที่ 2 มิสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ ที่ศาลล้มละลายกลางสั่งยกคำร้องของลูกหนี้ที่ 2 โดยมิได้ทำการไต่สวนก่อนจึงเป็นการไม่ถูกต้อง กรณีมีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ.2542 มาตรา 26 วรรคสี่”
พิพากษายกคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ให้ศาลล้มละลายกลางไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของลูกหนี้ที่ 2 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ