คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่ลูกจ้างกระทำละเมิดต่อนายจ้างในระหว่างการทำงานให้แก่นายจ้างนั้น นอกจากจะเป็นการกระทำละเมิดต่อนายจ้างแล้วยังเป็นการกระทำที่ผิดสัญญาจ้างแรงงานอีกด้วย ซึ่งการที่นายจ้างฟ้องเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้างแรงงานนั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เข้าทำงานเป็นลูกจ้างโจทก์ในตำแหน่งพนักงานขายและเก็บเงิน ต่อมาประมาณวันที่ 20 กรกฎาคม 2539 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการสาขาปากพนัง มีหน้าที่ขายและควบคุมการขายสินค้า เก็บเงินและควบคุมการเก็บเงินของพนักงานขายรวบรวมเงินส่งให้โจทก์ จัดทำรายงานการขายและเก็บเงินส่งให้โจทก์ จัดทำสัญญาเช่าซื้อและสัญญาค้ำประกัน ในการทำงานของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันรับรองความเสียหาย โดยยินยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมในระหว่างที่จำเลยที่ 1 ทำงานได้กระทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหลายครั้งหลายอย่างด้วยกัน ขอให้บังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันและแทนกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 786,703 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินจำนวน 167,292 บาท โดยร่วมกับจำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 167,292 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ขาดนัด
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์ใช้สิทธิในการฟ้องโดยไม่สุจริต กล่าวคือจำเลยที่ 2 ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ถูกเลิกจ้างเมื่อประมาณกลางปี 2540 และถูกดำเนินคดีอาญาต่อศาลจังหวัดปากพนัง แต่โจทก์กลับมิได้เร่งรัดเรียกหนี้จากจำเลยที่ 1 ในทางแพ่ง มิได้แจ้งถึงความเสียหายหรือเหตุละเมิดที่จำเลยที่ 1 ก่อให้จำเลยที่ 2 ทราบ ปล่อยให้ระยะเวลาช้าออกไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรเป็นเวลาหลายปีเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและเอาเปรียบจำเลยที่ 2 จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตขัดต่อกฎหมาย จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิด สิทธิเรียกร้องตามฟ้องโจทก์ขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว กล่าวคือ จำเลยที่ 2 เข้าค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างโจทก์ ต่อมาโจทก์เลิกสัญญาจ้าง จำเลยที่ 1 ตั้งแต่กลางปี 2540 เนื่องจากจำเลยที่ 1 ทำรายการสินค้าสูญหาย เก็บเงินไม่ออกใบเสร็จรับเงิน เก็บเงินปิดบัญชีแล้วไม่นำส่ง ขายสินค้าเป็นเงินสด ทำรายการเป็นเงินผ่อน ทำบัญชีเสียหายยึดสินค้าคืนแล้วไม่นำส่งบริษัท ส่งเงินขาดอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนคือจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันเป็นเวลาเกิน 1 ปี ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน 786,703 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และให้จำเลยที่ 2 ชำระเงินจำนวน 167,292 บาท แก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 2 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ในยอดเงินเดียวกันตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 1371/2541 ของศาลจังหวัดปากพนัง พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ทั้งนี้ นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2538 จำเลยที่ 1 เข้าทำงานเป็นลูกจ้างโจทก์ตำแหน่งพนักงานขายและเก็บเงิน ประจำสาขาปากพนังแล้วเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการสาขาปากพนัง มีหน้าที่ขายและควบคุมการขายสินค้าเก็บเงิน และควบคุมการเก็บเงินของพนักงานขายแล้วรวบรวมเงินส่งให้โจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ 1 ยอมรับผิดในความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้นแก่โจทก์อย่างลูกหนี้ร่วม…
…คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ข้อสุดท้ายว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โดยจำเลยที่ 2 อุทธรณ์ว่า โจทก์พบเหตุการณ์กระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 และรู้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อโจทก์ตั้งแต่ปี 2540 แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2545 ซึ่งเกินกว่า 1 ปี แล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง เห็นว่า การที่ลูกจ้างกระทำละเมิดต่อนายจ้างในระหว่างทำงานให้แก่นายจ้างนั้น นอกจากเป็นการกระทำละเมิดต่อนายจ้างแล้วยังเป็นการกระทำที่ผิดสัญญาจ้างแรงงานด้วย ซึ่งการที่นายจ้างฟ้องเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้างแรงงานนั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 โจทก์พบการกระทำละเมิดและว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดตั้งแต่ปี 2540 โจทก์ฟ้องคดีนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2545 ยังไม่เกิน 10 ปี ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน

Share