แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ป.รัษฎากรฯ มาตรา 91/2 บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับมาตรา 91/4 การประกอบกิจการดังต่อไปนี้ในราชอาณาจักร ให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามบทบัญญัติในหมวดนี้… (6) การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้มาโดยวิธีใดก็ตาม ทั้งนี้ เฉพาะที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา…” การที่โจทก์จดทะเบียนให้ที่ดินตามฟ้องแก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายโดยเสน่หา แม้การให้โดยเสน่หาจะถือเป็นการขายตามมาตรา 91/1 (4) แห่ง ป.รัษฎากรฯ แต่การที่บุพการีให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาแก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กรณีที่ทำเป็นทางค้าหรือหากำไร การให้โดยเสน่หาดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมาตรา 91/2 แห่ง ป.รัษฎากรฯ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ยกเลิกการประเมินภาษีธุรกิจเฉพาะตามหนังสือแจ้งการประเมินของจำเลยที่ 1 เลขที่ 03013280/4/100592 (ที่ถูก เลขที่ 03013280/6/100592) ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2546 จำนวน 660,000 บาท และเพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เลขที่ สภ.3 (อธ.3)/87/2547 ฉบับลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 เกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะเดือนตุลาคม 2538
จำเลยทั้งสี่ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนหนังสือแจ้งการประเมินเลขที่ 03013280/6/100592 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2546 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ เลขที่ สภ.3 (อธ.3)/87/2547 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 ให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 3,000 บาท สำหรับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 พิพากษายกฟ้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินตามฟ้องเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2537 ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม 2538 โจทก์ได้จดทะเบียนให้ที่ดินดังกล่าวแก่นางอรสา ตั้งสัจจะพจน์ บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์โดยเสน่หา ต่อมาวันที่ 4 สิงหาคม 2546 เจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ 1 ได้ประเมินให้โจทก์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะและเงินเพิ่มรวม 660,000 บาท โจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ โจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 มีว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ประมวลรัษฎาการ มาตรา 91/2 บัญญัติว่า ” ภายใต้บังคับมาตรา 91/4 การประกอบกิจการดังต่อไปนี้ในราชอาณาจักร ให้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามบทบัญญัติในหมวดนี้… (6) การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้มาโดยวิธีใดก็ตาม ทั้งนี้เฉพาะที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา…” การที่โจทก์จดทะเบียนให้ที่ดินตามฟ้องแก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายโดยเสน่หาแม้การให้โดยเสน่หาจะถือเป็นการขายตามมาตรา 91/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากรแต่การที่บุพการีให้ทรัพย์สินโดยเสน่หาแก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กรณีที่ทำเป็นทางการค้าหรือหากำไร การให้โดยเสน่หาดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่ให้โจทก์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะและเงินเพิ่มตามฟ้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน