แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนฯ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคสอง ต้องเป็นพียงกรณีมีเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน เท่านั้น แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีทั้งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 7, 72 วรรคหนึ่งเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 24, 55, 72, 73, 78 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 คืนอาวุธปืนยาวลูกซองแฝดขนาด 12 เครื่องหมายทะเบียน อร. 5/32 แก่เจ้าของและริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แต่ให้การปฏิเสธข้อหามีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองและข้อหาทำ ประกอบ ซ่อมแซมอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 24, 55, 72 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง, 73, 78 (ที่ถูก มาตรา 78 วรรคหนึ่ง) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจำคุก 1 ปี ฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 2 เดือน ฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ จำคุก 2 ปี ฐานทำ ประกอบ ซ่อมแซมอาวุธปืนสำหรับการค้า จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 5 ปี 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดบางข้อหา ส่วนข้อหาที่ให้การปฏิเสธทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 7 เดือน ริบของกลาง ยกเว้นอาวุธปืนลูกซองแฝดขนาด 12 เครื่องหมายทะเบียน อร. 5/32 ให้คืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต กับฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานทำ ประกอบ ซ่อมแซมอาวุธปืนสำหรับการค้าตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วเป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือน ยกฟ้องข้อหามีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ครอบครอง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า จำเลยมีอาวุธปืนไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานประทับถึง 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง และจำเลยได้ทำ ประกอบ ซ่อมแซมอาวุธปืนสำหรับการค้า นับว่าพฤติการณ์การกระทำความผิดอยู่ในขั้นร้ายแรง แม้จำเลยจะมีเหตุผลความจำเป็นในครอบครัวดังที่จำเลยอ้างมาในฎีกา ก็ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้นเหมาะสมกับพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง อันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนฯ ตามมาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ย่อมไม่ถูกต้อง เพราะความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนฯ ตามมาตรา 7, 72 วรรคสอง ต้องเป็นเพียงกรณีมีเครื่องกระสุนปืนฯ เท่านั้น แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีทั้งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 7, 72 วรรคหนึ่งเท่านั้น ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3