แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่มีหน้าที่ตรวจอุทธรณ์และมีคำสั่งกรณีนี้ตามมาตรา 232 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเสียเองเป็นการไม่ชอบ จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้ได้ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำสั่งตามมาตรา 229 กรณีมิใช่การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ซึ่งต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วัน ตามมาตรา 234
การอุทธรณ์คำสั่งที่ปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 กำหนดให้ทำเป็นคำร้อง ต้องชำระค่าธรรมเนียมคำร้องเพียง 40 บาท
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนรั้วสิ่งปลูกสร้าง สิ่งกีดขวางออกไปจากที่ดินตามส่วนที่ระบายด้วยสีแดงในเอกสารหมาย จ.6 ที่พิพาท เนื้อที่ประมาณ 17 ตารางเมตร ให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 1,500 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวออกไปจากที่ดินพิพาทและส่งมอบที่ดินคืนโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
วันที่ 27 มกราคม 2546 จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุอันควรอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ ไม่อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และมีคำสั่งในอุทธรณ์ว่าคดีต้องห้ามจำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง เมื่อผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นไม่รับรองอุทธรณ์ จึงไม่รับอุทธรณ์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดให้จำเลย
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2546 จำเลยยื่นอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้น ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กลับคำสั่งของศาลชั้นต้นและรับรองอุทธรณ์ของจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอำนาจการรับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงเป็นดุลพินิจเด็ดขาดของผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดี จำเลยไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ดุลพินิจในการรับรองอุทธรณ์ดังกล่าว จึงไม่รับอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย ค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ให้เป็นพับ วันที่ 10 มีนาคม 2546 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยฉบับลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2546
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยและจำเลยทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2546 แต่จำเลยมายื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2546 ซึ่งพ้นกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยในวันที่ 27 มกราคม 2546จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2546 (ที่ถูกต้องทำในรูปคำร้อง) ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่มีหน้าที่ตรวจอุทธรณ์และมีคำสั่งกรณีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยฉบับลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2546 เสียเองเป็นการไม่ชอบ จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวนี้ได้ภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 กรณีมิใช่การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ซึ่งต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 จำเลยจึงมีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่10 กุมภาพันธ์ 2546 เมื่อได้ความว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในวันที่ 10 มีนาคม 2546 ยังไม่พ้นกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่จำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบที่จะรับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยไว้พิจารณาและมีคำสั่งยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งโดยไม่ชอบนั้นเสีย การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วศาลฎีกาเห็นสมควรพิจารณาสั่งไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่ง
อนึ่ง การอุทธรณ์คำสั่งที่ปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234กำหนดให้ทำเป็นคำร้อง ซึ่งต้องชำระค่าธรรมเนียมคำร้องเพียง 40 บาท จำเลยชำระมา 200 บาท จึงให้คืนค่าธรรมเนียมส่วนที่เสียเกิน 40 บาท ให้แก่จำเลย”
พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย ฉบับลงวันที่ 10กุมภาพันธ์ 2546 ให้ศาลชั้นต้นส่งอุทธรณ์คำสั่งฉบับดังกล่าวไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคหนึ่ง และให้คืนค่าธรรมเนียมส่วนที่ชำระเกิน 40บาท ให้แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ