คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12445/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คดีนี้หมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้ส่งให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ จึงมีผลเสมือนว่าเจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 73 ทวิ ดังนั้น เมื่อ อ. พนักงานของจำเลยซึ่งมีอายุ 45 ปี และอยู่บ้านหรือสำนักงานเดียวกันได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2545 ย่อมถือได้ว่ามีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยโดยชอบแล้วตาม ป.วิ.พ. มาตรา 76 วรรคหนึ่ง และจำเลยอาจยื่นคำให้การได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันดังกล่าวตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคหนึ่ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 ตุลาคม 2545 การที่จำเลยยื่นคำให้การวันที่ 24 ตุลาคม 2545 จึงเกินกำหนด 15 วัน ตามกฎหมายนั้น ทั้งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเช่นนี้ หาใช่เป็นการส่งโดยวิธีอื่นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 79 ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ตามฟ้อง จำนวน 2,579,459 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน จำนวน 2,495,865 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น จำเลยยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2545 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าส่งหมายทางไปรษณีย์ได้เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2545 จำเลยต้องยื่นคำให้การภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง จำเลยยื่นคำให้การวันที่ 24 ตุลาคม 2545 พ้นเวลาตามที่กำหนด จึงมีคำสั่งไม่รับคำให้การจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาของกฎหมายหรือไม่ ข้อเท็จจริงในสำนวนรับฟังเป็นอันยุติว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2545 เจ้าหน้าที่ของศาลชั้นต้นได้เสนอรายงานต่อศาลชั้นต้นว่า หมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้จัดส่งให้จำเลยโดยวิธีไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับด่วนพิเศษ ผลการส่งหมาย คือ ส่งได้เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2545 (อดิศักดิ์ อายุ 45 ปี พนักงานรับแทน) ต่อมาจำเลยยื่นคำให้การเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2545 เห็นว่า คดีนี้หมายเรียกและสำเนาคำฟ้องได้ส่งให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ จึงมีผลเสมือนว่าเจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 73 ทวิ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่า นายอดิศักดิ์พนักงานของจำเลยซึ่งมีอายุ 45 ปี และอยู่บ้านหรือสำนักงานเดียวกัน ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2545 ตามรายงานเจ้าหน้าที่และใบตอบรับในประเทศ ย่อมถือได้ว่ามีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยโดยชอบแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 76 วรรคหนึ่ง และจำเลยอาจยื่นคำให้การได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคหนึ่ง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 ตุลาคม 2545 การที่จำเลยยื่นคำให้การวันที่ 24 ตุลาคม 2545 จึงเกินกำหนด 15 วัน ตามกฎหมายนั้น ทั้งการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเช่นนี้ หาใช่เป็นการส่งโดยวิธีอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ดังที่จำเลยฎีกาไม่ อนึ่ง ที่จำเลยฎีกาในทำนองว่าการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องจะต้องส่งให้กับคู่ความหรือบุคคลที่ระบุไว้ในคำคู่ความเท่านั้น จะเป็นคนอื่นไม่ได้ หรือหากจะส่งให้บุคคลอื่น บุคคลอื่นนั้นต้องมีอายุเกินกว่า 20 ปี นั้น เป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share