คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3906/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป. รัษฎากร มาตรา 8 บัญญัติให้ส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ณ ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงานของบุคคลนั้น เจ้าพนักงานของจำเลยส่งหนังสือแจ้งการประเมินให้แก่โจทก์โดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามที่อยู่ที่จ่าหน้าซองจดหมายซึ่งเป็นสำนักงานของโจทก์ เป็นการปฏิบัติตามที่มาตรา 8 กำหนดไว้แล้ว แต่การที่เจ้าพนักงานไปรษณีย์นำหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรไปส่งที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวสะพานซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการของโจกท์เคยทำงานเป็นนายกเทศมนตรี ไม่ตรงกับที่อยู่ที่จ่าหน้าซองจดหมายไว้ ถือได้ว่าเป็นการส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรไม่ตรงกับภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงานของบุคคลนั้น อย่างไรก็ตาม ป. รัษฎากร มาตรา 8 เป็นบทบัญญัติที่มุ่งประสงค์ป้องกันความเสียหายอันเกิดจากการเอารัดเอาเปรียบในการส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีและเพื่อให้ถึงตัวผู้รับโดยถูกต้อง เมื่อได้ความว่าหลังจากเจ้าพนักงานไปรษณีย์นำหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรไปส่งให้แก่โจทก์ที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวสะพานแล้ว มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเทศบาลลงลายมือชื่อรับไว้แทน และได้ฝากส่งต่อไปให้แก่หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์จนมีการยื่นอุทธรณ์การประเมินภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายแล้ว แสดงว่าโจทก์ได้รับทราบข้อความในหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรดังกล่าวและได้ยื่นอุทธรณ์การประเมินดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์แล้ว แม้การส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีจะส่งไม่ตรงกับสถานที่ที่กำหนดไว้ใน ป. รัษฎากร มาตรา 8 ก็หาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเหตุนี้ไม่ การส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีนายจำรัส พริ้มพราย เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ประกอบกิจการค้ารับเหมาก่อสร้าง จำเลยได้มีหนังสือแจ้งให้นำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย โดยส่งหนังสือแจ้งการประเมินทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เจ้าพนักงานไปรษณีย์มิได้นำหนังสือแจ้งการประเมินดังกล่าวไปส่งให้แก่โจทก์ที่สำนักงาน แต่ได้นำไปส่งไว้ที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวสะพานซึ่งเป็นสถานที่ที่นายจำรัส หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์เคยทำงานในตำแหน่งนายกเทศมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเทศบาลดังกล่าวลงลายมือชื่อรับเอกสารไว้ในใบตอบรับของไปรษณีย์ และได้ฝากส่งต่อกันไปให้แก่นายจำรัส จึงเป็นการส่งหนังสือแจ้งการประเมินที่มิชอบด้วยมาตรา 8 แห่ง ป. รัษฎากร เพราะสำนักงานเทศบาลตำบลหัวสะพานมิใช่ภูมิลำเนาของโจทก์ โจทก์จึงอุทธรณ์การประเมินว่า การส่งหนังสือแจ้งการประเมินไม่ชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการส่งหนังสือแจ้งการประเมินชอบแล้วให้ยกอุทธรณ์ ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งจดทะเบียนไว้ว่ามีภูมิลำเนาอยู่เลขที่ 43/1 หมู่ที่ 1 ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี จำเลยได้ส่งหนังสือแจ้งการประเมินภาษีไปยังภูมิลำเนาของโจทก์ดังกล่าวแล้ว ถือว่าการส่งหนังสือแจ้งการประเมินของจำเลยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความ 8,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติตามที่คู่ความมิได้อุทธรณ์ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีนายจำรัสเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง จำเลยเป็นกรมในสังกัดกระทรวงการคลัง เจ้าพนักงานประเมินมีหนังสือแจ้งให้โจทก์นำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย หนังสือแจ้งภาษีเงินได้นิติบุคคล และหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2544 โดยส่งหนังสือแจ้งการประเมินทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับระบุที่อยู่โจทก์ตามที่ได้จดทะเบียนไว้ แต่เจ้าพนักงานไปรษณีย์นำไปส่งที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวสะพาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายจำรัสเคยทำงานในตำแหน่งนายกเทศมนตรีโดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเทศบาลดังกล่าวลงลายมือชื่อรับไว้แทน และได้ฝากส่งต่อไปให้แก่นายจำรัส มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า การส่งหนังสือแจ้งการประเมินดังกล่าวให้แก่โจทก์เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตาม ป. รัษฎากร มาตรา 8 บัญญัติให้ส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ณ ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงานของบุคคลนั้น การที่เจ้าพนักงานไปรษณีย์นำหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรไปส่งที่เลขที่ 274 หมู่ที่ 10 ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ไม่ตรงกับที่จำเลยจ่าหน้าซองจดหมายไว้ ถือได้ว่าเป็นการส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรไม่ตรงกับภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงานของบุคคลนั้น แต่ ป. รัษฎากร มาตรา 8 เป็นบทบัญญัติที่มุ่งประสงค์ป้องกันความเสียหายอันเกิดจากการเอารัดเอาเปรียบในการส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีและเพื่อให้ถึงตัวผู้รับโดยถูกต้อง เมื่อได้ความว่าหลังจากที่เจ้าพนักงานไปรษณีย์นำหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรไปส่งให้แก่โจทก์ที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวสะพานแล้ว มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเทศบาลดังกล่าวลงลายมือชื่อรับไว้แทน และได้ฝากส่งต่อไปให้แก่นายจำรัสหุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ จนมีการยื่นอุทธรณ์การประเมินภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายแล้ว แสดงว่าการส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรของจำเลยให้แก่โจทก์ โจทก์ได้รับทราบข้อความในหนังสือดังกล่าวและยื่นอุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์แล้ว แม้การส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีจะส่งโดยไม่ตรงกับสถานที่ที่กำหนดไว้ใน ป. รัษฎากร มาตรา 8 ก็หาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะเหตุนี้ไม่ การส่งหนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากรดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

Share