แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดในฐานะที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้กระทำการแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล หาได้ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดเป็นการส่วนตัวไม่ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าการประปานครหลวงโดยตำแหน่งต้องรับผิดชอบในการจัดการและดำเนินงานของจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ. การประปานครหลวง พ.ศ. 2510 มาตรา 31 วรรคสอง เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุด จำเลยที่ 2 ต้องถูกบังคับตามกฎหมายและคำพิพากษาให้ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา จำเลยที่ 2 จึงถูกฟ้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 วางท่อน้ำประปาและติดตั้งอุปกรณ์เกี่ยวกับการวางท่อเข้าไปในที่ดินของโจทก์ โดยไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบหรือได้รับความยินยอมจากโจทก์ และไม่ได้จ่ายเงินค่าทดแทนในการใช้ที่ดินให้แก่โจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ไม่อาจใช้ประโยชน์ในที่ดินส่วนที่ท่อน้ำประปาผ่านได้ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 รื้อถอนออกไปแล้ว แต่จำเลยที่ 1 เพิกเฉย จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้บริหารกิจการของจำเลยที่ 1 ต้องร่วมรับผิดชอบในการกระทำของจำเลยที่ 1 ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนท่อน้ำประปาและอุปกรณ์ที่อยู่ในที่ดินของโจทก์ออกไป และทำให้ที่ดินกลับคืนสู่สภาพเดิม
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนท่อน้ำประปาและอุปกรณ์ออกไปจากที่ดินของโจทก์ และทำให้ที่ดินบริเวณดังกล่าวกลับคืนสู่สภาพเดิมในปัจจุบัน ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความทั้งสองฝ่ายให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า
ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ได้กระทำการในนามของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้กระทำตามอำนาจของกฎหมายแล้ว จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดในนามของจำเลยที่ 1 อีก นั้น เห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดในฐานะที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้กระทำการแทนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล หาได้ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดเป็นการส่วนตัวไม่ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าการการประปานครหลวง โดยตำแหน่งต้องรับผิดชอบในการจัดการและดำเนินงานของจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ. การประปานครหลวง พ.ศ. 2510 มาตรา 31 วรรคสอง เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุด จำเลยที่ 2 ต้องถูกบังคับตามกฎหมายและคำพิพากษาให้ดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา จำเลยที่ 2 จึงถูกฟ้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ได้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.