คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑ จำเลยลักทรัพย์ของโจทย์ไปรวมราคา ๘๑๐ บาท ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๔๖๑ เจ้าพนักงานค้นได้เงินเหรียญบาทของกลางบนเรือนจำเลย ๒๐๐ บาท ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญาส่วนที่ ๙ หมวดที่ ๑ ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธข้อหา แลต่อสู้ว่าเงินเหรียญบาทของกลางนั้นเปนของจำเลย ฯ
ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ลักทรัพย์ของโจทย์ไปจริง ทรัพย์ที่ผู้ร้ายลักไปนั้นมีเงินเหรียญบาท๖๐๐ บาท นอกนั้นเปนของรูปพรรณแต่ไม่ได้ความว่าผู้ใดลักไป ต่อมาอีก ๒ เดือนเศษโจทย์มีความสงสัยจำเลย เพราะเห็นจำเลยใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยผิดกว่าแต่ก่อนโจทย์จึงไปขอหมายต่อนายอำเภอให้กำนันมาค้นเรือนจำเลย ชั้นต้นจำเลยไม่ยอมให้ค้น เมื่อจำเลยทราบหมายแล้วจึงยอมให้ค้นแต่จำเลยรีบเข้าไปในเรือนก่อน แล้วนั่งอยู่ในเรือนนั้น กำนันได้ค้นในเรือนจำเลยแล้ว สงสัยว่าจำเลยนั่งอยู่ที่เดียวไม่ลุกขึ้นไปไหนเลย กำนันให้จำเลยลุกขึ้น จึงได้เงินเหรียญบาท ๒๐๐ บาท อยู่ในถุงที่จำเลยนั่งทับ แต่จำเลยก็ให้การแก้ว่า จำเลยมีความกลัวกำนันแลพวกโจทย์ไม่รู้ว่าจะมาทำอะไร จึงเอาถุงเงินมานั่งทับไว้ ฯ
ได้ความว่าดังกล่าวแล้ว ศาลจังหวัดสระบุรีเห็นว่าจำเลยมีกิริยาพิรุธควรฟังว่า จำเลยได้เงินนี้ไว้โดยรู้สึกว่าเปนของร้าย จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานรับของโจรตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๒๑ ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๓ เดือน ให้เงินของกลางแก่โจทย์ไป ฯ
จำเลยอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่าโจทย์ไม่ได้เบิกความยืนยันว่เงินของกลางนั้นเปนของโจทย์ โดยจำตำหนิได้อย่างไร จำเลยก็สามารถจะมีเงินอย่างนี้ได้เหมือนกัน ยังไม่พอจะลงโทษจำเลยฐานรับของโจร จึงพิพากษากลับคำพิพากษาเดิมให้ยกฟ้องของโจทย์ คืนเงินของกลางให้จำเลยไป ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาเดิม ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว ทางพิจารณายังฟังไม่ได้ว่าเงินของกลางนี้เปนของโจทย์ที่ผู้ร้ายลักไป เพราะไม่มีเครื่องหมายเปนพิเศษอย่างไร เหตุที่จำเลยเอาถุงเงินมานั่งทับในเวลาเจ้าพนักงานมาค้นนั้น จำเลยก็ให้การแก้ว่ามีความกลัวกำนันแลพวกโจทย์ ไม่รู้ว่าจะมาทำอะไรดังนี้ ยังไม่เพียงพอจะลงโทษจำเลยฐานรับของโจร ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษายกฟ้องโจทย์ปล่อยจำเลยไปนั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของโจทย์เสีย ฯ

Share