คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 อายุ 16 ปี กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสอง (เดิม) , 66 วรรคสอง (เดิม) ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามี พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2546 มาตรา 3 ให้เพิ่มความขึ้นเป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา 18 แห่ง ป.อ. ซึ่งข้อความในวรรคสามที่เพิ่มมีข้อความว่า ในกรณีผู้ซึ่งกระทำความผิดในขณะที่มีอายุต่ำกว่า สิบแปดปีกระทำความผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตให้ถือว่าระวางโทษดังกล่าวได้เปลี่ยนเป็นระวางโทษห้าสิบปี ระวางโทษตามที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่บังคับแก่จำเลยที่ 2 ตาม ป.อ. มาตรา 3

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66 วรรคท้าย ,102 ป.อ. มาตรา 83 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร 4 ฌ – 1343 (ที่ถูก กรุงเทพมหานคร 4 ฒ – 1343) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อโนเกีย รุ่น 211 หมายเลข 01 – 4469893 พร้อมแบตเตอรี่ คืนธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 10 ฉบับ ให้แก่เจ้าของ
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษา จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66 วรรคท้าย (ที่ถูก มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสอง, 66 วรรคสอง ประกอบ ป.อ. มาตรา 83) เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยทั้งสามมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดกรรมเดียว (ที่ถูก เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทด้วย) ต้องลงโทษตามกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด (ที่ถูก ตาม ป.อ. มาตรา 90) แต่ความผิดทั้งสองฐานมีระวางโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำเลยที่ 1 และที่ 3 ลงโทษประหารชีวิต จำเลยที่ 2 อายุกว่า 14 ปี แต่ไม่เกิน 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษลงตาม ป.อ. มาตรา 75 (ที่ถูก ประกอบมาตรา 52 (2)) กึ่งหนึ่ง จำคุก 25 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 หนึ่งในสาม ลดโทษให้จำเลยที่ 2 กึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 (ที่ถูกประกอบมาตรา 52 (1)) คงลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 2 จำคุก 12 ปี 6 เดือน ริบของกลาง ยกเว้นเงินของกลางให้คืนแก่เจ้าของ
จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร 4 ฌ – 1343 (ที่ถูก กรุงเทพมหานคร 4 ฒ – 1343) รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ตราด ง – 8963 และโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ โนเกีย รุ่นเวฟ 990 (ที่ถูก 900) หมายเลข 01 – 2516921 ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ร้อยตำรวจโท สมภพ กับพวก ได้ร่วมกันจับกุมจำเลยทั้งสามในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดคดีนี้ และได้เมทแอมเฟตามีนจำนวน 5,800 เม็ด น้ำหนักรวม 566.3 กรัม คำนวณเป็นปริมาณสารบริสุทธิ์น้ำหนัก 154 กรัม รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 2 เครื่อง กับธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 10 ฉบับ เป็นของกลางศาลชั้นต้นพิพากษา ลงโทษจำเลยที่ 2 คดีถึงที่สุด คงมีเฉพาะจำเลยที่ 1 และที่ 3 ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2…
อนึ่ง ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มี พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.อ. (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2546 มาตรา 3 ให้เพิ่มความขึ้นเป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา 18 แห่ง ป.อ. ซึ่งความในวรรคสามที่เพิ่มมีข้อความว่า “ในกรณีผู้ซึ่งกระทำความผิดในขณะที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีได้กระทำความผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิตหรือ จำคุกตลอดชีวิต ให้ถือว่าระวางโทษดังกล่าวได้เปลี่ยนเป็นระวางโทษจำคุกห้าสิบปี” ปรากฏว่าขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 2 อายุ 16 ปี ดังนั้น ระวางโทษตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่จึงเป็นคุณมากกว่าระวางโทษตามกฎหมายที่ใช้ ในขณะกระทำความผิด จึงต้องใช้กฎหมายที่แก้ไขใหม่บังคับแก่จำเลยที่ 2 ตาม ป.อ. มาตรา 3 ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คดีสำหรับจำเลยที่ 2 จะยุติ แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ศาลฎีกาจึงมีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 ตลอดชีวิต ลดโทษให้จำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละหนึ่งในสามตาม ป.อ. มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 33 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสอง (เดิม), 66 วรรคสอง (เดิม) ประกอบ ป.อ. มาตรา 18 วรรคสาม (ที่แก้ไขใหม่), 83 ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 75 เป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 25 ปี ลดโทษอีกกึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 12 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2.

Share