คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง และเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้วิธีข่มขืนใจทั้งการใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขืนใจด้วยประการอื่น เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น และเป็นเจ้าของกิจการสถานค้าประเวณี ความผิดทั้งสองฐานดังกล่าว เป็นความผิดที่อาศัยเจตนาต่างกัน มีองค์ประกอบความผิดที่ต่างกัน จึงเป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันหาใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 มาตรา 9 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283, 286, 310, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคสาม, 91, 310 วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 มาตรา 9 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 91 ความผิดฐานเป็นเจ้าของกิจการสถานการค้าประเวณี และความผิดฐานเป็นธุระจัดหา รับตัวเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานเป็นธุระจัดหารับตัวเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 10 ปี ความผิดฐานหน่วงเหนี่ยว กักขัง ทำให้หญิงนั้นปราศจากเสรีภาพในร่างกายจำคุก 1 ปี และความผิดฐานให้ที่พักอาศัยคนต่างด้าว จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 11 ปี 6 เดือน ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าของกิจการสถานการค้าประเวณี จำคุก 6 เดือน อีกกรรมหนึ่ง รวมลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 11 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง และเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้วิธีข่มขืนใจทั้งการใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขืนใจด้วยประการอื่นเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น และเป็นเจ้าของกิจการสถานการค้าประเวณี ความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวเป็นความผิดที่อาศัยเจตนาต่างกัน มีองค์ประกอบความผิดที่ต่างกัน จึงเป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน หาใช่เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมาย หลายบทดังฎีกาจำเลยไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นทุกข้อ
พิพากษายืน

Share