คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5208/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่จำเลยทำละเมิดเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายและโจทก์ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย เมื่อศาลใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะเป็นกำหนดเวลาแน่นอน และคำนวณเป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งให้จำเลยชำระให้แก่โจทก์แล้ว หนี้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวไม่ใช่หนี้ในอนาคต แต่เป็นหนี้เงินที่จำเลยจะต้องชำระทันที จึงต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นบิดามารดาของ น.ส.สมพร จันทกุลผู้ตาย จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน ๗๐-๐๔๗๕ ร้อยเอ็ดของจำเลยที่ ๒ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ด้วยความประมาทพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่อย่างแรงเป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้รับความเสียหาย และผู้ตายถึงแก่ความตายทันที โจทก์ทั้งสองขาดรายได้จากการที่ผู้ตายส่งเงินอุปการะเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท เป็นเวลา ๑๕ ปีเป็นเงิน ๓๕๐,๐๐๐ บาท ค่าจัดการศพจำนวน ๕๔,๐๐๐ บาท ค่าซ่อมรถจักรยานยนต์จำนวน ๓๒๐ บาท ค่าเสียใจจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท รวมค่าเสียหายเป็นเงิน ๔๕๔,๓๒๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ขับรถยนต์โดยประมาทผู้ตายสามารถอุปการะโจทก์ทั้งสองปีละไม่เกิน ๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ บาทค่าใช้จ่ายในการจัดการศพไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียใจขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน ๒๐๐,๒๗๓ บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดเหมาะสมและสมควรแล้ว แล้ววินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่าค่าขาดไร้อุปการะเป็นหนี้ในอนาคต จำเลยที่ ๒ ไม่ควรต้องรับผิดในดอกเบี้ยนั้น เห็นว่า เมื่อศาลใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะเป็นกำหนดเวลาแน่นอนและคำนวณเป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งให้จำเลยทั้งสองชำระให้แก่โจทก์แล้วหนี้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวนี้จึงไม่ใช่หนี้ในอนาคต แต่เป็นหนี้เงินที่จำเลยทั้งสองจะต้องชำระทันที จึงต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด
พิพากษายืน.

Share