คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์ ข้อ 1 กล่าวว่า จำเลยลักกระบือ แต่ในฟ้อง ข้อ 2 กล่าวว่า มีผู้พบเห็นจำเลยพาโคของผู้เสียหายไป หรือทำการลักโคของผู้เสียหาย เมื่อจำเลยให้การแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้รายการทรัพย์จากกระบือเป็นโค โดยอ้างว่าพิมพ์ผิด ดังนี้ เห็นว่าไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี เพราะเป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้อง และโจทก์ได้ขอแก้ ฟ้องก่อนศาลทำการสืบพยานโจทก์ จำเลยย่อมมีโอกาสต่อสู้คดีได้เต็มภาคภูมิตาม ป.วิ.อ. มาตรา 164

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
จำเลยให้การปฏิเสธ และต่อสู้ว่าตามฟ้องข้อ ๑ กล่าวว่าจำเลยลักกระบือ แต่ในฟ้อง ข้อ ๒ กล่าวว่า มีผู้พบเห็นจำเลยพาโคของผู้เสียหายไป หรือทำการลักโคของผู้เสียหาย ไม่รู้ว่าลักอะไรกันแน่ ซึ่งเป็นการทำให้จำเลยต่อสู้คดียาก ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม
โจทก์ยื่นคำร้อง ขอแก้ฟ้องว่า ตามฟ้องข้อที่ ๑ บรรทัดที่ ๒ ขอแก้รายการทรัพย์จากกระบือ เป็นโค เนื่องจากพิมพ์ผิดไป จำเลยรับสำเนาแล้วแถลงว่าสุดแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ขอแก้คำว่ากระบือในฟ้องข้อ ๑ เป็นโค นี้ ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี เพราะเป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้อง และโจทก์ได้ขอแก้ ฟ้องก่อนศาลทำการสืบพยานโจทก์ จำเลยย่อมมีโอกาสต่อสู้คดีได้เต็มภาคภูมิ โจทก์จึงขอแก้ฟ้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๖๔ พิพากษายืน

Share