คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อำนาจหน้าที่ในการเรียกเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนและผู้เป็นเจ้าของกองทุนเงินทดแทนคือกรมแรงงาน
สำนักงานกองทุนเงินทดแทน คือหน่วยงานหนึ่งของกรมแรงงานการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานกองทุนเงินทดแทน กับของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนถือเป็นการกระทำของกรมแรงงาน เมื่อโต้แย้งสิทธิโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องกรมแรงงาน
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบ การจ่ายเงินทดแทนของสำนักงานกองทุนเงินทดแทน และการอุทธรณ์ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2527 ที่กำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบตามอัตราเงินสมทบในตารางที่ 1 ท้ายประกาศ โดยกำหนดประเภทกิจการเป็นรหัส และอัตราเงินสมทบแตกต่างกัน ก็เพื่อจะเรียกเก็บเงินสมทบมากน้อยตามประเภทกิจการที่มีความเสี่ยงไม่เท่ากันในการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน มิใช่เป็นการจำกัดความรับผิดว่า ถ้าลูกจ้างไม่ได้ประสบอันตรายเพราะการทำงานปกติหรือตามวัตถุประสงค์ของนายจ้างแล้ว สำนักงานกองทุนเงินทดแทนก็ไม่ต้องจ่ายเงินทดแทน เพราะประเภทกิจการอย่างหนึ่งของนายจ้างอาจมีงานอื่น ๆ นอกเหนือจากสภาพการทำงานปกติของลูกจ้างรวมอยู่ด้วย เมื่อนายจ้างของโจทก์มีคำสั่งแต่งตั้งโจทก์เป็นนักกีฬาฟุตบอล เพื่อแข่งขันกีฬาระหว่างธนาคารซึ่งระเบียบของนายจ้างถือว่าการแข่งขันและการฝึกซ้อมกีฬาเป็นการปฏิบัติงานของธนาคาร การที่โจทก์ประสบอันตรายในขณะฝึกซ้อมฟุตบอล จึงเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง จำเลยต้องจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำเลยเป็นกรมในรัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับกองทุนเงินทดแทนโดยมีคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนเป็นผู้ปฏิบัติงาน นายจ้างโจทก์แต่งตั้งโจทก์เป็นนักฟุตบอลเข้าแข่งขันกีฬาของธนาคาร โจทก์ฝึกซ้อมฟุตบอลแล้วประสบอันตรายกระดูกหน้าแข้งซ้ายหักโจทก์ไม่สามารถปฏิบัติงานได้รวม ๖๕ วัน ซึ่งเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง มีสิทธิได้รับเงินทดแทน แต่คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับ ขอให้บังคับเพิกถอนคำวินิจฉัยดังกล่าว และให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ธนาคารนายจ้างโจทก์ลงทะเบียนจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประเภทกิจการสถาบันทางการเงิน รหัส ๑๖๐๑ มิได้ลงทะเบียนจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประเภทกิจการบริการบันเทิงและการกีฬา รหัส ๑๖๑๔ โจทก์ทำงานให้นายจ้างตำแหน่งพนักงานบริหารทั่วไป (ขับรถ ๒) อันเป็นการทำงานตามประเภทกิจการสถาบันทางการเงิน โจทก์ประสบอันตรายเนื่องจากการฝึกซ้อมฟุตบอลไม่ถือว่าได้รับอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างตามประเภทที่นายจ้างได้ลงทะเบียนจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนไว้ โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน จำเลยไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยคำร้องเรื่องเงินทดแทน และไม่ได้เป็นผู้ปฏิเสธไม่จ่ายเงินทดแทน แต่คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนเป็นผู้วินิจฉัย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน และให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๐๓ ข้อ ๓ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้มีกองทุนเงินทดแทนในกรมแรงงานเพื่อเป็นทุนให้มีการจ่ายเงินทดแทนแก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง และกำหนดให้เงินที่ประกอบเป็นกองทุนเงินทดแทนตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมแรงงานโดยไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลัง ในกรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนหรือจ่ายไม่ครบ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๐๓ ข้อ ๑๐ วรรคหนึ่งยังให้อำนาจอธิบดีกรมแรงงาน ออกคำสั่งเป็นหนังสือยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของนายจ้างได้ จึงเห็นได้ว่าอำนาจหน้าที่แท้จริงในการเรียกเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน และผู้เป็นเจ้าของกองทุนเงินทดแทนคือกรมแรงงาน แม้ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบฯ ลงวันที่ ๑๑ มิถุนายน๒๕๑๖ กำหนดให้สำนักงานกองทุนเงินทดแทนมีหน้าที่ในการเรียกเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนจากนายจ้าง สำนักงานกองทุนเงินทดแทนก็คือหน่วยงานหนึ่งของจำเลย ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานกองทุนเงินทดแทนของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนจึงถือว่าเป็นการกระทำของจำเลย การที่คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นการกระทำของจำเลย โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย และตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบ การจ่ายเงินทดแทนของสำนักงานกองทุนเงินทดแทนและการอุทธรณ์ (ฉบับที่ ๒) ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๑๘ กำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนตามอัตราเงินสมทบในตารางที่ ๑ ท้ายประกาศนั้น โดยกำหนดประเภทกิจการเป็นรหัสและอัตราเงินสมทบแตกต่างกัน เพื่อจะเรียกเก็บเงินสมทบมากน้อยตามประเภทกิจการที่มีความเสี่ยงไม่เท่ากันในการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ทั้งนี้ พิจารณาตามสภาพการทำงานปกติของลูกจ้างในประเภทกิจการนั้น ๆ การกำหนดประเภทกิจการและรหัสจึงไม่ใช่เป็นการจำกัดความรับผิดว่า ถ้าลูกจ้างไม่ได้ประสบอันตรายเพราะการทำงานปกติหรือตามวัตถุประสงค์ของนายจ้างแล้ว สำนักงานกองทุนเงินทดแทนของจำเลยก็ไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนเพราะประเภทกิจการอย่างหนึ่งของนายจ้าง อาจจะมีงานอื่น ๆนอกเหนือจากสภาพการทำงานปกติของลูกจ้างรวมอยู่ด้วย เช่นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรนายจ้างของโจทก์จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนตามตารางที่ ๑ รหัส ๑๖๐๑ ประเภทกิจการสถาบันทางการเงิน ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการขนส่งหรือขับรถ แต่โจทก์ทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถยนต์ของนายจ้างไม่เกี่ยวกับการทำงานทางการเงิน หากโจทก์ประสบอันตรายเนื่องจากขับรถยนต์ให้นายจ้างจำเลยจะปฏิเสธไม่จ่ายเงินทดแทนโดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับการทำงานทางการเงินตามวัตถุประสงค์ของนายจ้างหาได้ไม่ ด้วยเหตุผลอย่างเดียวกันเมื่อนายจ้างของโจทก์มีคำสั่งแต่งตั้งโจทก์เป็นนักกีฬาฟุตบอลเพื่อแข่งขันกีฬาระหว่างธนาคาร และระเบียบของนายจ้างเอกสารหมาย จ.๑ ข้อ ๒๐ ถือว่าการแข่งขันกีฬาและการฝึกซ้อมกีฬาของพนักงานเป็นการปฏิบัติงานของธนาคาร จึงถือได้ว่าการฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันกีฬาฟุตบอลของโจทก์เป็นการทำงานให้นายจ้างตามคำสั่งของนายจ้าง เพราะการเล่นกีฬาย่อมก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่พนักงานและมีพลานามัยแข็งแรงเป็นประโยชน์แก่การทำงานให้แก่นายจ้าง การที่โจทก์ประสบอันตรายในขณะฝึกซ้อมฟุตบอลจึงเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง แม้นายจ้างของโจทก์ได้จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประเภทกิจการสถาบันทางการเงิน ไม่ได้จ่ายตามประเภทกิจการ บริการบันเทิงและการกีฬาตามที่จำเลยอุทธรณ์จำเลยก็หาหลุดพ้นจากความรับผิดในการจ่ายเงินทดแทนให้แก่โจทก์ไม่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share