แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ถึงวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยขอเลื่อนคดี 3 นัดศาลอนุญาต นัดที่ 4 จำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่าติดธุระสำคัญเกี่ยวกับการค้าที่ต่างจังหวัดเช่นเดียวกับนัดที่ 3 ซึ่งศาลกำชับมิให้ขอเลื่อนคดี ดังนี้ ข้ออ้างของจำเลยไม่ใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ พฤติการณ์ของจำเลยจึงเป็นการประวิงคดีให้ชักช้า ศาลไม่ให้จำเลยอื่นเลื่อนคดี.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องให้บังคับจำเลยชำระหนี้จำนวน ๙๗๑,๘๕๑.๒๕ บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๖๙๙,๐๕๒.๐๕ บาท นับจากวันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยไม่ชำระหรือชำระหนี้ไม่ครบให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ขอให้มีคำสั่งยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนครบ
จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่ ๑ ที่ ๒ ทนายจำเลยยื่นคำร้องว่าทนายจำเลยป่วยขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาต นัดที่ ๓ จำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่า จำเลยเดินทางไปทำธุรกิจสำคัญที่จังหวัดนครราชสีมา ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยมีคำสั่งกำชับไม่ให้ขอเลื่อนคดีอีก ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลยที่เลื่อนมาทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องว่า จำเลยติดธุรกิจสำคัญเกี่ยวกับการค้าที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่สามารถทันเวลาและมาศาลตามที่นัดไว้ได้ และคดีนี้เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์สูงและสลับซับซ้อน หากจำเลยได้สืบพยานอย่างเต็มที่แล้ว คดีของจำเลยมีทางชนะ ขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยขอเลื่อนคดีมาหลายนัด นัดที่แล้วศาลกำชับจำเลยมิให้เลื่อนคดี การที่จำเลยอ้างเหตุติดธุระกิจเกี่ยวกับการค้าต่างจังหวัดไม่เป็นเหตุผลสมควรเพียงพอ จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ ให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้ หากได้เงินไม่พอชำระให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้ หากได้เงินไม่พอชำระให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้โจทก์จนครบ
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาในชั้นนี้มีว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบนั้น ชอบหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ครั้นถึงวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยขอเลื่อนคดีถึง ๓ นัด ศาลชั้นต้นก็อนุญาต แต่เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยนัดที่ ๔ จำเลยก็ขอเลื่อนคดีอ้างว่าติดธุรกิจสำคัญเกี่ยวกับการค้าที่ต่างจังหวัดอีก จึงเป็นการกล่าวอ้างเหตุแห่งการขอเลื่อนคดีเช่นเดียวกับนัดที่ ๓ ซึ่งศาลชั้นต้นกำชับมิให้ขอเลื่อนคดี นอกจากนี้ธุรกิจการค้าเป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยและศาลได้กำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยไว้ล่วงหน้านานพอสมควรจำเลยสามารถนัดทำธุรกิจการค้าของจำเลยไม่ให้ตรงกับวันนัดสืบพยานจำเลยได้แต่จำเลยไม่กระทำ ข้ออ้างของจำเลยจึงไม่ใช่เหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้พฤติการณ์ของจำเลยจึงเป็นการประวิงคดีให้ชักช้าที่ศาลล่างทั้งสองไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีจึงชอบแล้ว…”
พิพากษายืน.