คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3426/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องจดทะเบียนยกที่ดินให้เป็นถนนสาธารณะแล้ว แม้ต่อมาทางราชการไม่ใช้ทำถนน ผู้ร้องก็จะมาใช้สิทธิทางศาลขอคืนที่ดินโดยอ้างว่ายังคงครอบครองที่ดินอยู่และขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดสนับสนุนหรืออนุญาตให้ผู้ร้องใช้สิทธิเช่นว่านี้ได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องได้จดทะเบียนยกที่ดินนางส่วนของผู้ร้องให้เป็นถนนสาธารณะแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ แต่ยังคงครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่เพราะทางราชการไม่ดำเนินการตัดถนน ต่อมาทางราชการมีหนังสือยืนยันว่าไม่ทำถนนในที่ดินที่ผู้ร้องยกให้และคืนที่ดินดังกล่าวให้ แต่กรมที่ดินไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนคืนให้ผู้ร้องได้ ผู้ร้องครอบครองที่ดินโดยสงบ และเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่ใช่เรื่องที่จะมาใช้สิทธิทางศาล ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้องว่า ที่ดินที่ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งแสดงกรรมสิทธิ์เป็นที่ดินที่ผู้ร้องได้จดทะเบียนยกให้เป็นถนนสาธารณะประโยชน์แยกออกจากโฉนดเลขที่ ๕๒๓๐ ของผู้ร้องไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๐๗ แต่ผู้ร้องอ้างว่ายังคงครอบครองที่ดินดังกล่าวตลอดมา และทางราชการไม่ใช้ที่ดินนั้นทำถนนสาธารณะและคืนที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง แต่ไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนได้ ผู้ร้องจึงมาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว เห็นว่า กรณีของผู้ร้องที่ขอใช้สิทธิทางศาลขอคืนที่ดินที่ยกให้เป็นถนนสาธารณะประโยชน์แล้วทางราชการไม่ทำถนนและไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนคืนที่ดินให้ได้ จึงมาขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์นั้น เป็นกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายใดสนับสนุนหรืออนุญาตให้ผู้ร้องใช้สิทธิเช่นว่านี้ได้ ผู้ร้องจึงจะมาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงกรรมสิทธิ์ไม่ได้

Share