คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5229/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสัญญาที่โจทก์ทำขึ้นกับจำเลยเป็นการที่โจทก์รับจะโฆษณางานเพลงของจำเลย โดยจำเลยตกลงจะชำระเงินตอบแทนให้แก่โจทก์ในงานที่ได้ทำขึ้นนั้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงรับทำการงานให้แก่จำเลย การที่โจทก์เรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าโฆษณาจึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่างๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้นรวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไปก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7) จึงมีกำหนดอายุความสองปี เมื่อโจทก์สามารถบังคับสิทธิเรียกร้องในค่าโฆษณาช่วงเดือนธันวาคม 2537 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2537 การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ 27 ธันวาคม 2539 ซึ่งเกินกำหนดสองปีแล้ว ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้ย่อมขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์โฆษณาคิวเพลงและสปอตเทปเพลงทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ต่าง ๆ หลายรายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๘๓,๐๕๐ บาท โจทก์ได้ออกรายการทางสถานีวิทยุและทางสถานีโทรทัศน์ให้จำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ชำระค่าจ้างโฆษณาให้โจทก์ จำเลยต้องรับผิดชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วย ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๓๙ ถึงวันฟ้องเป็นดอกเบี้ย ๒๓,๗๒๙ บาท รวมเป็นเงิน ๓๐๖,๗๗๙ บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ๓๐๖,๗๗๙ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๒๘๓,๐๕๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยยื่นคำให้การว่า จำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ตามฟ้อง และหนี้ดังกล่าวขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๑๖๙,๑๗๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๑๒๘,๑๗๕ บาท และอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๔๑,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ ๖,๐๐๐ บาท
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ ๑๙๗,๒๓๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว เห็นว่า ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๓๗ จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ให้ดำเนินการโฆษณาเพลงอันเป็นสินค้าของจำเลยทางวิทยุกระจายเสียงและทางสถานีโทรทัศน์ซึ่งโจทก์ได้ดำเนินการให้แล้ว ในการเก็บเงินค่าจ้างโฆษณานั้นโจทก์จะเก็บล่วงหน้า ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ จะเก็บภายหลังที่โฆษณาแล้ว โดยจะเก็บภายในเดือนเดียวกันกับที่ออกอากาศ ภายในวันที่ ๒๕ ของเดือนที่ออกอากาศ เป็นการที่โจทก์รับจ้างโฆษณางานเพลงของจำเลย โดยจำเลยตกลงจะชำระเงินตอบแทนให้แก่โจทก์ในงานที่ได้ทำขึ้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นข้อตกลงรับทำการงานให้แก่จำเลย ดังนั้น การที่โจทก์เรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าโฆษณาช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๓๗ จึงเป็นกรณีที่โจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไปก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๙๓/๓๔ (๗) จึงมีกำหนดอายุความสองปี เมื่อโจทก์สามารถบังคับสิทธิเรียกร้องในค่าโฆษณาช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๓๗ จำนวน ๕๔,๙๑๐ บาท และ ๔,๑๐๐ บาท ได้ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๗ แต่โจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๓๙ ซึ่งเกินกำหนดสองปีแล้ว ฟ้องโจทก์ในส่วนนี้จึงขาดอายุความ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยชำระค่าโฆษณาคิวเพลงประจำเดือนมกราคม ๒๕๓๘ จำนวน ๙๖,๕๘๐ บาท และค่าโฆษณาคิวเพลงประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ จำนวน ๙๐,๕๖๐ บาท แต่ในส่วนของค่าโฆษณาคิวเพลงประจำเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ ศาลอุทธรณ์กำหนดให้จำเลยใช้เป็นเงิน ๙๐,๖๕๐ บาท ซึ่งเกินกว่าคำขอของโจทก์ไปจำนวน ๙๐ บาท ทั้งยอดหนี้รวมที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระแก่โจทก์ก็เป็นยอดหนี้ที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ศาลอุทธรณ์มิได้สั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นซึ่งไม่ถูกต้อง เช่นกัน ปัญหาดังกล่าวนี้ถึงแม้มิได้มีคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินค่าโฆษณาคิวเพลงประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ เป็นเงินจำนวน ๙๐,๕๖๐ บาท เมื่อรวมกับค่าโฆษณาคิวเพลงประจำเดือนมกราคม ๒๕๓๘ จำนวน ๙๖,๕๘๐ บาท แล้ว เป็นเงินที่จำเลยจะต้องชำระจำนวน ๑๘๗,๑๔๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้น แทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความให้ ๖,๐๐๐ บาท ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share