คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2462/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์วางระเบียบให้พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศจากบ้านของผู้ติดตั้งโทรศัพท์ได้ โดยให้ผู้เช่าโทรศัพท์นำเงินค่าธรรมเนียมการใช้วิทยุโทรศัพท์มาชำระภายหลังองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยติดตั้งเครื่องโทรศัพท์ที่บ้านจำเลยตามคำขอของจำเลย จำเลยให้องค์การยูซ่อมเช่าบ้านพร้อมโทรศัพท์ แสดงว่าจำเลยยินยอมให้พนักงานองค์การยูซ่อมใช้เครื่องโทรศัพท์พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศได้ด้วย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยใช้เงินค่าธรรมเนียมที่พนักงานองค์การยูซ่อมใช้เครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวพูดวิทยุทางไกลไปต่างประเทศ
จำเลยมีหนังสือถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบัญชีของโจทกว่า จำเลยเข้าใจว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปของผู้เคยอาศัยอยู่ในบ้านจำเลยซึ่งย้ายออกไปแล้ว จำเลยได้มอบเรื่องราวให้องค์การยูซ่อมเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมมามอบให้แก่ส่วนการบัญชีและการเงินของโจทก์แล้ว ได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงให้เห็นว่าจำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์และมีเจตนาจะใช้หนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง จึงไม่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
แม้โจทก์จะเป็นกรมในรัฐบาลมีหน้าที่จัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลขวิทยุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนก็ดี แต่ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการใช้ทุกครั้งเงินค่าธรรมเนียมคือสินจ้าง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้ารับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) จึงมีอายุความ 2 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่ามีหน้าที่ให้บริการสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการสื่อสารแก่ประชาชน โจทก์ได้วางระเบียบให้พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศจากบ้านหรือสำนักงานของผู้ติดตั้งโทรศัพท์ได้ โดยให้ผู้เช่าโทรศัพท์นำเงินไปชำระให้โจทก์ในภายหลังองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้ติดตั้งเครื่องเครื่อง โทรศัพท์ที่บ้านจำเลยตามคำขอของจำเลย ระหว่างวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๔ ถึงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ ได้มีผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์นั้นพูดวิทยุโทรศัพท์ผ่านเครื่องวิทยุของโจทก์ไปต่างประเทศ ๙ ครั้งคิดเป็นเงิน ๑๑,๓๒๑ บาท โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยมีหนังสือรับสภาพหนี้ถึงผู้แทนโจทก์ขอผัดผ่อน แล้วไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยติดตั้งโทรศัพท์เพื่อใช้ภายในประเทศไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ ไม่เคยพูดหรือมอบหมายให้ผู้ใดพูดโทรศัพท์ไปต่างประเทศองค์การยูซ่อมเป็นผู้เช่าบ้านที่ติดตั้งโทรศัพท์ จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ว่าจะช่วยติดต่อองค์การยูซ่อมให้ชำระหนี้ให้โจทก์ ไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้ตามฟ้องแม้หนี้ขาดอายุความแต่จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ อายุความจึงสะดุดหยุดลง เมื่อนับใหม่จึงไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๑๑,๓๒๑ บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ หนังสือของจำเลยไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ หนี้ตามเอกสารหมาย จ.๒๒ ขาดอายุความพิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินให้ ๑๐,๙๔๓ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาชั้นต้น
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อความที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดเท่ากับฎีกาข้อกฎหมายว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยให้องค์การยูซ่อมเช่าบ้านพร้อมเครื่องโทรศัพท์และผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์ของจำเลยพูดทางไกลไปต่างประเทศผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์ คือพนักงานองค์การยูซ่อม แสดงว่าจำเลยยินยอมให้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศได้ด้วย จำเลยจะต้องรับผิดชอบในการใช้เครื่องโทรศัพท์นั้น จะอ้างว่าองค์การยูซ่อมเป็นผู้ชำระค่าโทรศัพท์และปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ ข้อตกลงระหว่างจำเลยกับองค์การยูซ่อมดังกล่าวหากจะมีก็ไม่ผูกพันโจทก์เพราะโจทก์มิได้ตกลงด้วย โจทก์มีอำนาจฟ้อง
หนังสือที่จำเลยมีถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบัญชีของโจทก์ใจความว่าจำเลยเข้าใจว่าเป็นการใช้เครื่องโทรศัพท์ทางไกล ข้ามทวีปของผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งบัดนี้ได้ย้ายออกไปแล้วเมื่อ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๖ จำเลยได้มอบเรื่องราวให้แก่องค์การยูซ่อม เพื่อจัดการเรียกเก็บเงิน ๘,๒๕๒ บาท มามอบให้แก่ส่วนการบัญชีและการเงินของโจทก์แล้วได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกทีไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์จริง มีเจตนาจะใช้หนี้โจทก์โดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ข้อความในเอกสารดังกล่าวกลับแสดงว่าจำเลยโต้แย้งว่าองค์การยูซ่อมเป็นผู้จะต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์ หาใช่จำเลยไม่ หนังสือนั้นจึงไม่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
ปัญหาเรื่องหนี้ตามเอกสารหมาย จ.๒๒ ค่าใช้บริการเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๔ จำนวนเงิน ๓๗๘ บาทขาดอายุความหรือไม่นั้น เห็นว่าแม้โจทก์จะเป็นกรมในรัฐบาลเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลข วิทยุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนก็ดี แต่ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการใช้ให้โจทก์ทุกครั้ง ค่าธรรมเนียมนั้นก็คือสินจ้างนั่นเอง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้รับค้าทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๖๕(๗) จึงมีอายุความ ๒ ปี หาใช่มีอายุความ ๑๐ ปีดังโจทก์ฎีกาไม่ สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดตั้งแต่วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๔ แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๑๖ เกินกว่า ๒ ปี คดีของโจทก์สำหรับหนี้ดังกล่าวจึงขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share