คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ ปรากฏว่าขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้มีคำสั่งให้รัฐธรรมนูญซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นและรัฐสภาสิ้นสุดลง จึงไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาที่ผู้ร้องฎีกา เพราะไม่อาจจะบังคับคดีให้เป็นไปตามคำร้องของผู้ร้องได้ ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษรจังหวัดอุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ ๒ ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้ง กรรมการตรวจคะแนนและเสมียนคะแนนของหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยหรือเกือบทุกหน่วย เป็นไปโดยมิชอบหลายประการดังที่ได้บรรยายไว้ในคำร้อง เป็นเหตุให้คะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งคนอื่น ๆ มากกว่าที่เป็นจริง และคะแนนของผู้ร้องซึ่งได้สมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้น้อยกว่าที่เป็นจริง ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าการเลือกตั้งในเขตดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
ผู้คัดค้านทั้งสามคัดค้านว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเลือกตั้งไปโดยชอบแล้วขอให้ยกคำร้อง
ศาลจังหวัดอุดรธานีนัดไต่สวนคำร้อง ครั้นถึงวันนัดผู้ร้องและทนายผู้ร้องไม่ไปศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลจังหวัดอุดรธานีถือว่าผู้ร้องขาดนัดพิจารณา จึงสั่งให้จำหน่ายคดี
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลจังหวัดอุดรธานีสั่งว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๑ ห้ามอุทธรณ์คำสั่งของศาลที่ได้สั่งตามมาตรานี้ จึงไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งว่า กรณีคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นอำนาจศาลฎีกาที่จะวินิจฉัยชี้ขาด ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจที่จะสั่งในเรื่องนี้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้มีคำสั่งฉบับที่ ๓ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ สิ้นสุดลง และให้รัฐสภาและคณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ จึงไม่ต้องวินิจฉัยปัญหาที่ผู้ร้องฎีกาขึ้นมาเพราะไม่อาจจะบังคับให้เป็นไปตามคำร้องของผู้ร้องได้
จึงให้จำหน่ายฎีกาของผู้ร้องเสียจากสารบบความของศาลฎีกา

Share