แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยต่างจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” สำหรับสินค้าจำพวก 11 อันได้แก่ผ้าอนามัย แต่โจทก์มิได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า”CEL” เป็นเครื่องหมายชุดของโจทก์และคำว่า “CEL” เป็นคำทั่วไปอันมีลักษณะไม่บ่อเฉพาะการและการผสมกับคำอื่น ๆ ได้ ประกอบกับโจทก์เพิ่งมายื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLA” เมื่อพ.ศ. 2516 อันเป็นเวลาภายหลังที่จำเลยได้ยื่นขอจดทะเบียนถึง 1 ปี และในระหว่างนั้นเป็นเวลาที่จำเลยได้ลงทุนทั้งในการผลิต การโฆษณา และจำหน่ายสินค้าที่จำเลยจดทะเบียนคำว่า “CELIA” จนเป็นที่แพร่หลายแก่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว ส่วนสินค้าของโจทก์จะใช้เครื่องหมายคำว่า “CELIA” ยังมิได้ผลิตออกจำหน่ายเลย ดังนี้โจทก์จะมาอ้างสิทธิดังกล่าวเพื่อขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” โดยมิให้สิทธิจำเลยจดทะเบียนนั้นหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์ประกอบอุตสาหกรรมผลิตจำหน่ายและสั่งเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งสินค้าจำพวกกระดาษชำระ ผ้าอนามัย และอื่น ๆ โดยใช้เครื่องหมายการค้าขึ้นต้นด้วยอักษร “C E L” (ซี.อี.แอล) เช่น “CELIA” “CELLCX” และ “CELLIA” เครื่องหมายการค้าดังกล่าวโจทก์คิดประดิษฐ์ขึ้นมาจนประชาชนนิยมใช้ประมาณ ๑๐ ปี ต่างรู้จักและเข้าใจดีว่าเครื่องหมายการค้าที่มีอักษรนำว่า “CEL” เป็นของโจทก์ โจทก์ได้จำหน่ายตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ และได้ยื่นคำขอจดทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ และได้ยื่นคำขอจดทะเบียนคำว่า “CELIA” ไว้ในปีเดียวกัน ต่อมานายทะเบียนเครื่องหมายการค้าแจ้งว่า เครื่องหมายการค้า “CELIA” ที่จำเลยขดจดทะเบียนไว้ จึงไม่อาจจดทะเบียนให้โจทก์ได้ ให้โจทก์ทำความตกลงกับจำเลยหรือนำคดีมาสู่ศาลภายในสามเดือน มิฉะนั้นจะจดทะเบียนให้จำเลยซึ่งขอจดทะเบียนไว้ก่อนโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต เพราะประชาชนทราบดีกว่า เครื่องหมายการค้าที่มีอักษร “CEL” เป็นของโจทก์ ขอศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิจะจดทะเบียนคำว่า “CELIA” ดีกว่าจำเลย ห้ามจำเลยดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอจดทะเบียนคำว่า “CELIA” ต่อไป
จำเลยให้การและแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่า คำว่า “CEL” คำเดียวมิใช่เครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่จดทะเบียนไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะใช้เป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์แต่ผู้เดียว จำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” สำหรับผ้าอนามัยของจำเลยโดยสุจริต เปิดเผย จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเป็นเวลานานแล้ว และโจทก์ได้ขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าไว้แล้วด้วย เครื่องหมายการค้า “CELIA” ของโจทก์ โจทก์ขอจดทะเบียนเพื่อใช้กับสินค้า คือกระดาษชำระประเภทต่างๆ และกระดาษปูโต๊ะ ซึ่งต่างชนิดกับของจำเลย นอกจากนั้นเครื่องหมายการค้า “CELLOX” และ “CELLA” ของโจทก์ก็แตกต่างกับของจำเลยทั้งตัวสะกดและการอ่าน ทั้ง “CELLOX” ของโจทก์มีรูปผู้หญิง ส่วน “CELIA” ของจำเลยมีรูปผีเสื้อ จึงแตกต่างกัน ไม่มีทางที่ประชาชนจะหลงผิด ด้วยเหตุนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิห้ามจำเลยดำเนินการจดทะเบียนการค้าดังกล่าว “CELIA” ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ได้เคยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLOX” และโจทก์เคยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLIA” มาก่อน โจทก์จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองหรือจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายชุดก็น่าจะทำได้ ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พุทธศักราช ๒๔๗๔ พิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิจะจดทะเบียนคำว่า “CELIA” ดีกว่าจำเลย ห้ามมิให้จำเลยดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “CELIA” ต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่เคยสั่งสินค้าที่มีเครื่องหมายคำว่า “CELIA” มาจำหน่าย และไม่เคยยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อเป็นชุดกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้ก่อน แต่เพิ่งยื่นคำขอจดทะเบียนภายหลังจำเลย ทั้งจำเลยยังไม่ได้ใช้จ่ายในการโฆษณาเป็นจำนวนมาก ย่อมแพร่หลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” ก่อนโจทก์ จึงมีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” ดีกว่าโจทก์ จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะได้จดทะเบียนการค้าคำว่า “CELLOX” และ “CILLA” ซึ่งมีคำขึ้นต้นว่า “CELL” ก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CEL” เป็นเครื่องหมาของโจทก์ ประกอบกับคำว่า “CEL” เป็นคำทั่วไป อันมีลักษณะไม่บ่อเฉพาะ และอาจผสมกับคำอื่น ๆ ได้ ทั้งพยานโจทก์เองก็เบิกความว่า คำว่า “CEL” ไม่มีความหมายเกี่ยวกับบริษัทโจทก์ เหตุที่ใช้คำนี้ก็เพราะประชาชนนิยมและเป็นที่รู้จักกันทั่วไปแล้ว ดังนั้น โจทก์จะกล่าวอ้างลอย ๆ ว่าคำว่า “CEL” เป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ อันเป็นการตัดสิทธิของผู้ที่จะนำคำว่า “CEL” ไปเป็นเครื่องหมายการค้าหาได้ไม่ สำหรับเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLA” ซึ่งคล้ายคำว่า “CELIA” โจทก์อ้างว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และได้ใช้มาตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ โจทก์จึงควรจะได้สิทธิจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLIA” รวมไปถึงเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” ด้วย เห็นว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLIA” ซึ่งเป็นสินค้าผ้าอนามัยชนิดสอด อันเป็นผลิตภัณฑ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์และโจทก์ได้สั่งเข้ามาจำหน่ายที่ตัวกล่องตามเอกสารหมาย จ.๑๔ นั้นไม่ปรากฏว่ามีชื่อบริษัทโจทก์ หรือโจทก์ได้รับโอนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวจากเจ้าของเครื่องหมายการค้าแต่อย่างใด อนึ่ง โจทก์เองก็ได้สั่งซื้อสินค้าดังกล่าวเข้ามาในปี ๒๕๑๑ เพียงครั้งเดียวเพราะจำหน่ายไม่ดีจึงไม่แพร่หลายแก่ประชาชน และประชาชนทั่วไปย่อมไม่ทราบว่าเป็นสินค้าของโจทก์ จึงยังไม่ถือว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLIA” เป็นเครื่องหมาการค้าของโจทก์ซึ่งโจทก์จะอ้างสิทธิขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมกับเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” เพื่อเป็นการตัดสิทธิหาได้ไม่ อีกประการหนึ่ง ถ้าหากโจทก์มีเจตนาสุจริต โจทก์อาจจะยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELLIA” และ “CELIA” ตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ หรือขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายชุดในตอนนั้นแล้ว แต่โจทก์เพิ่งมาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว เมื่อพ.ศ. ๒๕๑๖ อันเป็นเวลาภายหลังที่จำเลยได้ยื่นขอจดทะเบียนถึง ๑ ปี และในระหว่างนั้นเป็นเวลาที่จำเลยได้ลงทุนทั้งในการผลิต การโฆษณา และจำหน่าย จนเป็นที่แพร่หลายแก่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว ทั้ง ๆ ที่สินค้าของโจทก์จะใช้เครื่องหมายคำว่า “CELLIA” เลิกจำหน่ายและสินค้าที่จะใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” ยังมิได้ผลิตออกจำหน่ายเลย ย่อมเป็นการเอาเปรียบจำเลย การที่โจทก์จะมาอ้างสิทธิดังกล่าวเพื่อขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “CELIA” โดยมิให้สิทธิจำเลยจดทะเบียนนั้นหาได้ไม่
พิพากษายืน