คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ตัดฟันโดยไม่ชอบ ยังนำมาไว้ในความครอบครองของจำเลย อันเป็นความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดตามมาตรา11, 69, 70, 73แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เมื่อจำเลยมีไม้หวงห้ามดังกล่าวไว้โดยมิได้รับอนุญาต ด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้ดังกล่าวมา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69ย่อมเป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 69 และมาตรา 74 ทวิ โดยตรงอยู่แล้ว จึงต้องริบรถยนต์ของกลาง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้เต็ง ๒ ท่อน ปริมาตรเนื้อไม้ ๐.๑๖ ลูกบาศก์เมตรซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. บัญชีที่ ๒ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้ามพ.ศ. ๒๕๐๕ และเป็นไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูป ซึ่งมีผู้ตัดฟันชักลากออกจากป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ไว้ในความครอบครองของจำเลย โดยจำเลยรู้แล้วว่าเป็นไม้หวงห้ามที่มีผู้ตัดฟันชักลากออกจากป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ และจำเลยไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย แล้วจำเลยได้นำไม้หวงห้ามนี้พาเคลื่อนที่ไปจากป่าเข้ามาไว้ในความครอบครองของจำเลยโดยมิได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้หวงห้ามดังกล่าวและรถยนต์ ๑ คันที่จำเลยใช้กระทำผิดโดยใช้เป็นยานพาหนะบรรทุกไม้ดังกล่าวออกจากป่ามาไว้ในความครอบครองของจำเลยเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔มาตรา ๖๙ ริบไม้และรถยนต์ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๖๙ ลงโทษปรับ ไม้ของกลางให้ริบ ส่วนคำขอให้ริบรถยนต์ของกลางให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวขอให้ริบรถยนต์ของกลาง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า รถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่ได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔มาตรา ๗๔ ทวิ โดยชัดแจ้ง จึงต้องริบตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๗๖/๒๕๐๖พิพากษาแก้ให้ริบรถยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้ยืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ไม้ของกลาง ๒ ท่อนเป็นไม้หวงห้ามและจำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ตัดฟันโดยไม่ชอบ แล้วจำเลยนำมาไว้ในความครอบครองของจำเลยจริง อันเป็นความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๑, ๖๙, ๗๐, ๗๓ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ทั้งฟังได้ต่อไปว่าวันเกิดเหตุเวลา ๑ ทุ่มเศษ จำเลยถูกจับพร้อมกับไม้ของกลางที่อยู่ในรถยนต์ของกลาง จำเลยมีไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ โดยมิได้รับอนุญาต ด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้ดังกล่าวมาในคืนเกิดเหตุอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔มาตรา ๖๙
เมื่อจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา ๖๙ ฐานมีไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้หวงห้ามดังกล่าวมาย่อมเป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา ๖๙ และมาตรา ๗๔ ทวิ โดยตรงอยู่แล้ว จึงต้องริบรถยนต์ของกลาง
พิพากษายืน

Share